
‘ฮุน เซน’ ประกาศเส้นแดงตอบโต้กองทัพไทย อ้างฝ่ายไทยใช้อาวุธทุกชนิดยิงใส่ตั้งแต่เมื่อคืน ขอกองกำลังกัมพูชาที่แนวหน้าให้อดทน ด้าน กห.กัมพูชายืนยันไทยเปิดฉากยิงช่วงเช้า แต่กัมพูชายังไม่ตอบโต้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวสถานการณ์ความขัดแย้งไทยและกัมพูชา โดยอ้างอิงข่าวจากทางฝั่งกัมพูชา โดยสำนักข่าว Kampuchea Thmey Daily ของกัมพูชารายงานข่าวว่าเมื่อเช้าวันที่ 8 ธ.ค. นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุให้ "กองกำลังแนวหน้าทั้งหมดต้องอดทน" เนื่องจากผู้รุกรานได้ใช้อาวุธทุกชนิดยิงใส่กัมพูชามาตั้งแต่เมื่อวาน คืนที่แล้ว และเช้านี้
ด้วยจุดประสงค์เพื่อดึงกัมพูชาเข้าสู่การตอบโต้ และทำลายปฏิญญาสันติภาพกัมพูชา-ไทย อย่างไรก็ตาม นายฮุน เซนได้กล่าวย้ำว่า "เส้นแดงที่ต้องตอบโต้ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว" พร้อมทั้งขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับให้ข้อมุลกับเจ้าหน้าที่และทหารทุกคนให้เข้าใจ และขอให้หน่วยงานทุกระดับช่วยเหลือประชาชนที่อพยพออกจากพื้นที่อันตรายไปยังพื้นที่ปลอดภัย
“ด้วยความเร่งด่วนของสถานการณ์ สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้ยกเลิกงานและโปรแกรมทั้งหมดที่ต้องทำในฐานะประธานวุฒิสภา และขอความเข้าใจจากแขกทั้งในและต่างประเทศสำหรับสถานการณ์เร่งด่วนนี้ นอกจากนี้ สมเด็จฯ ฮุน เซน ยังประกาศว่านักกีฬาที่จะเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย จะเข้าร่วมการแข่งขันตามปกติ” สื่อกัมพูชาระบุ
ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เหตุการณ์โจมตีเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 02:15 น. โดยทหารไทยได้เปิดฉากยิงด้วยอาวุธขนาดเล็ก อาวุธประจำกายแบบ B40 และปืนครก 60 มม. ใส่กองกำลังกัมพูชาที่สนามบินทำในอำเภอจอมกระสาน จังหวัดพระวิหาร แม้ว่ากองกำลังกัมพูชาจะไม่ได้ตอบโต้ก็ตาม การยิงดำเนินไปจนถึงเวลา 02:32 น. ก่อนจะหยุดลงหลังกัมพูชาติดต่อให้ยุติ
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น เมื่อเวลา 20:02 น. ทหารไทยได้เปิดฉากยิงใส่ทหารกัมพูชาอีกครั้งด้วยอาวุธขนาดเล็กหลายนัด บริเวณหน้าแนวป้องกันของกัมพูชาในพื้นที่โอเป็กสเวทา และต่อมาเมื่อเวลา 08:30 น. ทหารไทยยังคงยิงใส่ทหารกัมพูชาที่สนามบินทำในอำเภอจอมกระสาน จังหวัดพระวิหาร และหยุดลงในเวลา 20:50 น.
โดยในเช้าวันที่ 8 ธันวาคม เวลา 05:04 น. กองทัพไทยได้เปิดฉากยิงใส่กองกำลังกัมพูชาในพื้นที่อันเสส จังหวัดพระวิหาร จากนั้นได้ยิงไปที่ปราสาทตาเมือนธมโดยใช้รถถังหลายคัน และยังยิงไปที่พื้นที่ปราสาทพระวิหารเมื่อวันที่ 5 มกราคม รวมถึงไร่กล้วยแห่งหนึ่งด้วย แม้ว่าฝ่ายกัมพูชาจะไม่ได้ตอบโต้กลับก็ตาม
เรียบเรียงจาก:https://www.kampucheathmey.com/local-news/1033940

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา