
ทหารเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ 2 นาย บริเวณห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี-รมว.มหาดไทย สั่งหยุดเดินหน้าตามข้อตกลงความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาทันที ประสานเสียง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ระงับการพิจารณาส่ง 18 เชลยศึก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก รายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี เกิดเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดบริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเส้นทาง เป็นเหตุให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ดังนี้
1. จ.ส.อ. เทิดศักดิ์ สมาพงษ์ อาการข้อเท้าขวาขาด
2. พลทหาร วชิระ พันธนา อาการแน่นหน้าอกจากแรงอัด
ทั้งนี้ ปัจจุบันได้ดำเนินการส่งตัวด้วยอากาศยานเข้าทำการรักษา ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เรียบร้อยแล้ว หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบต่อไป
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า ได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่กองทัพภาคที่ 2 แล้ว
“ผมเห็นด้วยและสนับสนุนการดำเนินการของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพในเรื่องนี้ สิ่งที่เรากำลังดำเนินการมาโดยตลอด ณ ตอนนี้ก็ต้องถือว่า หยุดจนกว่าจะมีความชัดเจน และผมก็จะแจ้งไปยังกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศว่า ต้องทำตามสิ่งที่ประเทศไทยต้องการเท่านั้น สิ่งที่มันเกิดขึ้นนี้ทำให้ความเป็นปฏิปักษ์ที่เราคิดว่ามันจะลดลงไป ต่อภัยความมั่นคงของชาติมันไม่ได้ลดลง เมื่อมันไม่ได้ลด เราก็ดำเนินการอะไรนอกเหนือจากนี้ไม่ได้”นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวย้ำถึงกระบวนการการดำเนินการตามขั้นตอนตามการลงนามในประกาศความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ต.ค.68 ว่า “ทุกอย่างต้องหยุด”
อ่านข่าวประกอบ : 'ไทย-กัมพูชา' เซ็นดีลสันติภาพ 'ทรัมป์-อันวาร์' เป็นพยาน-'อนุทิน' ยันข้อตกลงไม่เสียเปรียบ
นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนรายละเอียดได้ให้พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหมและกองทัพได้ออกมาชี้แจง
“สิ่งหนึ่งที่ผมยืนยันกับพล.อ.ณัฐพลไปแล้ว คือ ท่านว่าไปเลย ผมอยู่กับท่าน ผมตามท่านทุกอย่าง”นายอนุทินกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการส่งคืน 18 เชลยศึกต้องชะลอออกไปหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า หยุดทันที

ด้านพล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นและได้สอบถามกับเสนาธิการทหารบกแล้ว พื้นที่ประสบเหตุเป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างเขาพระหารและภูมะเขือที่เรายึดได้ และเป็นพื้นที่ที่เรากำลังผลักดันกัมพูชาออกไป ซึ่งแม่ทัพภาค 2 อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า กับระเบิดที่วางใหม่หรือเก่า ซึ่งแม่ทัพภาค 2 คาดว่าจะเป็นกับระเบิดใหม่ จึงขอให้ตรวจสอบก่อน
“ส่วนเรื่องการประท้วงทำทันทีอยู่แล้ว และแต่ที่แน่ ๆ เรื่องเชลยศึกให้เอาไว้ก่อน ต้องมาคุยกันในรายละเอียด แต่ถ้าพิสูจน์ทราบว่าเป็นเจตนาก็มากกว่านั้น”พล.อ.ณัฐพลกล่าว
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลยอมรับไม่ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีสนับสนุนในการดำเนินการทุกอย่างแก่กองทัพและการดำเนินการตามข้อตกลง Joint declaration ที่ดำเนินมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์ ให้หยุดไปก่อนดังนั้นการดำเนินการ ที่มีความกังวลว่า จะมีการปล่อยเชลยศึกในวันที่ 12 พฤศจิกายน นั้น เรื่องนี้ก็ต้องหยุดไปก่อนเช่นกัน ดังนั้นขอให้ประชาชนได้มีความมั่นใจว่ารัฐบาลไม่มีการอ่อนข้อ และไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ กับประเทศกัมพูชา และยืนยันว่าสิ่งที่รัฐบาลมุ่งหวัง คือให้ประเทศ โดยเฉพาะพื้นทีชายแดนกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ให้เร็วที่สุด แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ความเป็นปฏิปักษ์ไม่ได้ลดลง ดังนั้นการดำเนินการใดๆที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาต้องหยุดชะงักและต้องมาเคลียร์เรื่องนี้ก่อน
เมื่อถามว่าจะหยุดการดำเนินการตามข้อตกลง Joint declaration แบบไม่มีกำหนดหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดจนกว่าจะมีการพูดคุย แต่จะบอกว่าไม่มีกำหนดก็กว้างเกินไป หลังจากนี้เมื่อมีการประท้วงกันแล้ว ก็ต้องมาดูว่าจะต้องมีการดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งตอนนี้ต้องหยุดไปก่อน จนกว่าจะมีการเคลียร์เรื่องการเหยียบทุ่นระเบิด
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เห็นว่ากัมพูชาไม่ได้ดำเนินการตามข้อตกลงและเป็นการเล่นนอกเกมใช่หรือไม่ นายสิริพงศ์กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือหนึ่งในนั้นส่วนที่เหลือก็ขอให้ไปฟังรายละเอียดจากฝ่ายความมั่นคง แต่นี่คือท่าทีของรัฐบาล
ส่วนต้องมีการชี้แจงเรื่องนี้ต่อนานาชาติหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ปกติกลไกในการประท้วงก็ต้องมีการอยู่แล้ว ต้องแจ้งกลุ่มผู้สังเกตการณ์ที่เป็นต่างชาติอยู่แล้ว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา