
‘พิพัฒน์’ ปิ๊งไอเดียพลิกอุโมงค์ทางด่วนภูเก็ตให้ใช้ฟรี นัดหน่วยงาน 5 พ.ย.นี้หารือความเป็นไปได้ เล็งลดไซส์อุโมงค์ลง เพื่อลดค่าก่อสร้าง-ให้มอเตอร์ไซค์ใช้ได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากที่ได้มีแนวคิดให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ปรับปรุงลดขนาดอุโมงค์โครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้-ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กิโลเมตร รวมถึงการให้นโยบายให้กรมทางหลวง (ทล.) รับผิดชอบโครงการ เพื่อให้เป็นเส้นทาง ที่ไม่มีการจัดเก็บค่าผ่านทาง ลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชนนั้น เนื่องจากยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องนำมาพิจารณา ดังนั้น ในวันที่ 5 พ.ย. 2568 จะมีการหารือเป็นการภายในร่วมกับปลัดกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และกรมทางหลวง (ทล.) ถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินการ
“ประเด็นสำคัญ คือ กรณีที่ต้องปรับแบบก่อสร้าง และลดขนาดอุโมงค์ลง จาก 17 เมตร เพื่อลดค่าก่อสร้าง และรถจักรยานยนต์ ยังสามารถใชอุโมงค์ได้นั้น จะมีผลในเรื่องความปลอดภัยหรือไม่ และจะทำให้เสียเวลาออกไปอีกมากน้อยแค่ไหน รวมถึงจะต้องมีการศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)ใหม่หรือไม่ หากต้องศึกษา EIA จะต้องใช้เวลาอีกเท่าไร” นายพิพัฒน์กล่าว
นายพิพัฒน์กล่าวว่า กรณีไม่ปรับเปลี่ยนแบบ จะสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างไร เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย ที่ต้องการให้เส้นทางในส่วนที่เป็นอุโมงค์ เป็นการให้ประชาชนใช้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าผ่านทาง สามารถให้กทพ.ดำเนินการในรูปแบบเดิมได้หรือไม่ หรือต้องปรับเปลี่ยนเป็นทางหลวงปกติ เรื่องนี้จะขอหารือารายละเอียดเป็นการภายในกับผู้เกี่ยวข้องก่อน
ทั้งนี้ โครงการนี้แบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยในส่วนของอุโมงค์อยู่ในระยะแรก ซึ่งอยากให้ใช้อุโมงค์ฟรี เมื่อออกจากอุโมงค์แล้ว จะมีโครงการระยะที่ 2 ที่ยังเป็นทางด่วน เป็นทางเลือกให้ประชาชนใช้ต่อเนื่องเพื่อความรวดเร็วในการเดินทาง หรือหากไม่ต้องการใช้ทางด่วนก็ให้มีทางแยกออกไปใช้ถนนปกติได้ ซึ่งหากกทพ.สามารถรับไปดำเนินการได้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องโอนโครงการให้กรมทางหลวง
“นโยบายคือ ต้องการให้ประชาชนใช้เส้นทางฟรี ก็อาจต้องโอนไปให้กรมทางหลวงดำเนินการก่อสร้างโดยใช้งบประมาณ แต่จะทำให้มีความล่าช้าออกไป แต่หาก ให้การทางพิเศษฯ ทำเหมือนเดิม เรื่องระยะเวลาเร็วกว่าแน่นอน ส่วนที่ไม่เก็บค่าผ่านทาง ในส่วนของอุโมงค์ กทพ.จะรับได้แค่ไหน” นายพิพัฒน์กล่าวอีก
สำหรับ โครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต แบ่งเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 ช่วงกะทู้-ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กม. วงเงินลงทุุน 16,759 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 5,793 ล้านบาท , ค่าก่อสร้างงานโยธา 9,975 ล้านบาท, ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 279 ล้านบาท คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ให้กทพ. ดำเนินโครงการโดยการจ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้าง (Design & Build)
ก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง (สำหรับรถยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง และรถจักรยานยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง) ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร และมีอุโมงค์อยู่ในช่วงกลางของแนวสายทาง เพื่อลอดใต้เขานาคเกิด (อุโมงค์มีระยะทาง 1.85 กิโลเมตร) จุดเริ่มต้นเชื่อมกับถนนพระเมตตา ในพื้นที่ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ และมีจุดสิ้นสุดโครงการในพื้นที่ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำร่าง TOR เพื่อเปิดประมูลหาผู้รับจ้าง และดำเนินการเวนคืนไปมากกว่า 80% แล้ว คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในเดือนเม.ย. 2569
ส่วนโครงการระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ มีระยะทาง 30.62 กม. วงเงินรวมประมาณ 45,930 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 21,188 ล้านบาท , ค่าก่อสร้างงานโยธา 22,620 ล้านบาท, ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 604 ล้านบาท และค่าก่อสร้างงานระบบจัดเก็บค่าผ่านทางและระบบควบคุมจราจร (งานระบบ) 1,518 ล้านบาท
เป็นทางระดับดิน อุโมงค์ และทางบกระดับ 4 ช่องจราจร โดยผ่านการรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว อยู่ในขั้นตอนเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา