
เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'บุญเส็ง จูมัจฉะ' อดีตนายกอบต.บางหลวง นครปฐม-พวก ทุจริตจัดซื้อรถบรรทุกน้ำดับเพลิงอเนกประสงค์ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาลงโทษคนละ 3 ปี ไม่รอลงอาญา - ป.ป.ช.เห็นชอบตาม อสส.อุทธรณ์สู้ต่อ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายบุญเส็ง จูมัจฉะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางหลวง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม กับพวก ทุจริตในการจัดซื้อครุภัณฑ์ยานพาหนะรถบรรทุกน้ำดับเพลิงอเนกประสงค์ชนิด 6 ล้อ พร้อมอุปกรณ์ครบชุด จำนวน 1 คัน เมื่อปี 2556 ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 , 157 ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 4, 11, 12 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา
โดยคดี นายบุญเส็ง จูมัจฉะ เป็นจำเลยที่ 1 , สิบตำรวจโท สวอง แก้วรัตน์ จำเลยที่ 2 นายณัฏฐนันท์ แก้ววงค์วาน จำเลยที่ 3 นายฐรกร แก้วคำ จำเลยที่ 4 นายธรรมรงค์ ปัดลี จำเลยที่ 5 นางสาวภคมน สินภักดี จำเลยที่ 6
ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นายบุญเส็ง จูมัจฉะ จำเลยที่ 1 , สิบตำรวจโท สวอง แก้วรัตน์ จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 (เดิม)
จำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 3 ปี
2. นายณัฏฐนันท์ แก้ววงค์วาน จำเลยที่ 3 นายฐรกร แก้วคำ จำเลยที่ 4 นายธรรมรงค์ ปัดลี จำเลยที่ 5 นางสาวภคมน สินภักดี จำเลยที่ 6 มีความผิด ตาม พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 4 วรรคหนึ่ง
จำคุกจำเลย ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 และที่ 6 คนละ 3 ปี
ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษากรณีลงโทษจำเลยที่ 3 ถึงที่ 6 และเห็นควรอทุธรณ์คำพิพากษา กรณียกฟ้องจำเลยที่ 1 และที่ 2 ตาม ป.อ.มาตรา 151 และ พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 11 , 12
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา