
แสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เผย พร้อมจัดการเลือกตั้ง-ประชามติวันเดียวกัน แต่ขอเวลาบริหารจัดการไม่น้อยกว่า 75 วัน ถ้าอยากได้ตามไทม์ไลน์เลือกตั้ง 29 มี.ค.69 ระบุ ประชามตินอกเขตได้ แต่ไม่มีการออกเสียงล่วงหน้า ลั่น นับคะแนนเสร็จ 23.00 น. จบครบทุกกระดาน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะนายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวเปิดงานการจัดกิจกรรมแถลงข่าวตามสถานการณ์ เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งและการจัดให้มีการออกเสียงประชามติตอนหนึ่งว่า คำถามที่ว่าจะเลือกตั้งกับประชามติวันไหน หรือ จะเลือกตั้งพร้อมกับประชามติหรือไม่ หรือจะบริหารจัดการอย่างไร หรือ จะใช้งบประมาณเท่าไหร่ กกต.พร้อม
@ กกต.พร้อมจัดเลือกตั้งพ่วงประชามติ
นายแสวงกล่าวว่า กกต.และคนไทยจะได้ประสบการณ์ครั้งแรกร่วมกัน หากมีการเลือกตั้งกับการออกเสียงประชามติพร้อมกันในวันเดียวกันจะเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่จะมีสองกิจกรรมใหญ่ๆ เกิดพร้อมกันและคู่ขนานกันไป
“ถามว่า จัดวันไหน คงจะให้กกต.ตอบไม่ได้ แต่เราตอบอย่างมั่นใจได้อย่างหนึ่ง คือ เราพร้อม ไม่ว่าจะให้มีการเลือกตั้งหรือประชามติวันไหน หรือจะมีการเลือกตั้งพร้อมกับการออกเสียงประชามติภายในวันเดียว”นายแสวงกล่าว
นายแสวงกล่าวย้ำว่า ส่วนจะเป็นวันไหนนั้น กกต.เป็นเพียงปลายทาง เพราะเหตุที่จะให้มีการทำประชามติมาจากหน่วยงานอื่น ไม่ใช่ กกต. ประชามติเกิดจากครม. ส่งเรื่องมาให้กกต. แต่ในบางเรื่องไม่ได้เริ่มที่ครม. แต่เริ่มมาจากรัฐสภา เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“ครั้งนี้ หากดูตามสถานการณ์ (ไทม์ไลน์การเลือกตั้งและจัดทำประชามติวันเดียวกันในวันที่ 29 มี.ค.69 ตามไทม์ไลน์ของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ) ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นไปตามที่คาดการณ์หรือไม่ เพราะถ้าเป็นปลายเปิด ทุกคนที่เกี่ยวข้องจะไม่มีปัญหาเลยในการบริหารจัดการ แต่ถ้าปลายปิด วันเลือกตั้งถูกกำหนดไว้ว่าต้องเป็นช่วงนี้ (29 มี.ค.69) เราต้องนับย้อนขึ้นมา เพราะทั้งสองกิจกรรม (เลือกตั้งและประชามติ) ต้องทำอะไรบ้าง แต่ทำอย่างไรให้ตรงกัน”นายแสวงกล่าว
นายแสวงกล่าวว่า การจัดการเลือกตั้งไม่มีปัญหา เพราะกิจกรรมมีความชัดเจน คือ ไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน แต่การทำประชามติตามกฎหมายใหม่กำหนดไว้ ต้องไม่น้อยกว่า 60 วัน แต่ไม่เกิน 150 วัน ถ้าบริหารจัดการไม่ดีเวลาจะเหลื่อมกันทันที แต่ถ้าบริหารจัดการดีๆ ก็อยู่ในวันเดียวกันได้ แต่ไม่ใช่เรื่องของกกต. ต้องคุยกัน เพราะครั้งนี้ ตามเอ็มโอเอ (ข้อตกลงของรัฐบาลกับพรรคประชาชน) มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย คนที่เกี่ยวข้อง หรือ ริเริ่ม คือ รัฐสภา คนส่งเรื่องให้ กกต. คือ ครม. กกต.ถึงนำมาจัดทำประชามติ
@ กกต.ขอเวลา 75 วันเป็นอย่างน้อย
“ตอนนี้ คือ ปลายปิด วันเลือกตั้ง มีการประกาศเจตนารมณ์ของผู้มีอำนาจล่วงหน้าไปแล้วว่าจะอยู่ประมาณไหน จึงต้องนับขึ้นมาว่า จากนี้ไปประมาณ 5 เดือน จนถึงวันเลือกตั้ง รัฐสภาจะตัดทำรัฐธรรมนูญเสร็จวันไหนถึงจะได้ข้อริเริ่มในการทำประชามติ กี่คำถาม ถึงจะส่งให้ครม. และครม.จึงจะส่งให้กกต. ดังนั้น วันนี้ถึงยังบอกไม่ได้ว่าจะได้ตามเวลาหรือไม่ แต่ในส่วนของการทำประชามติ (เอ็มโอยู) ใช้เวลาน้อย แต่ถ้าเป็นการแก้รัฐธรรมนูญ มีรัฐสภาเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงต้องรอดูว่าจะเป็นไปอย่างที่สามารถทำได้ตามเงื่อนเวลาที่เหลืออยู่ได้หรือไม่”นายแสวงกล่าว
นายแสวงกล่าวว่า สำหรับเรื่องงบประมาณ พ.ร.บ.ประชามติฉบับใหม่ อนุญาตให้ออกเสียงประชามติและเลือกตั้งวันเดียวกันและหน่วนเดียวกันได้ โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทั้งรัฐสภา ครม. และกกต. มีเวลาในการทำงานได้ตามสมควร แต่ กกต. ถึงกฎหมายจะกำหนดว่า ไม่น้อยกว่า 60 วัน แต่กกต.ก็ขอเวลา 75 วันเป็นอย่างน้อย เพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนรู้และเข้าใจ กับการจัดเวทีแสดงความเห็น ให้ฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยได้แสดงความคิดเห็น
“สมมุติว่า เป็นไปตามข่าว เลือกตั้งวันที่ 29 มี.ค.69 นับมา 75 วัน ครม.ต้องส่งเอกสารรายละเอียดการทำประชามติมาให้กกต. เพราะกกต.ต้องการเวลา 75 วัน 30 วัน กกต.ต้องพิมพ์เอกสารแจกประชาชน ถ้าเป็นรัฐธรรมนูญรัฐสภาต้องทำให้เสร็จ ครม.กับรัฐสภาต้องทำงาน แต่ถ้าล้ำเข้าไปในแดน 75 วัน ถึงแม้ว่าเส้นตายตามกฎหมาย คือ ไม่น้อยกว่า 60 วัน แต่จะไม่ตรงกับการเลือกตั้งวันที่ 29 มี.ค.69 เพราะวันนี้กำหนดระยะเวลาเป็นแบบปลายปิด เราต้องนับเวลาจากปลายปิดขึ้นมาว่าทุกคนแบ่งเวลากันอย่างไร ถ้าอยากได้ลงล็อกวันเดียวกัน เป็นการบ้านของทุกส่วน ไม่ใช่กกต.คนเดียว”นายแสวงกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีสถานการณ์พิเศษ การบริหารจัดการเลือกตั้งจะเป็นไปตามขั้นตอนปกติแบบที่ผ่านมาทุกครั้ง หรือจะมีอะไรที่ทาง กกต.กังวลใจหรือขอความร่วมมือกับพรรคการเมืองเป็นพิเศษหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า ไม่ว่าจะเงื่อนไขไหน เวลาเท่าใด กกต.มีความพร้อม
@ ลดจำนวนบัตร-ประหยัดงบประมาณ
นายแสวงกล่าวว่า ในเรื่องของจำนวนบัตรกี่ใบ กี่กระดานคะแนน ถ้าบริหารจัดการดีๆ และต้องการลดงบประมาณ อาจจะลดจำนวนบัตร จาก 2 ใบ ได้แก่ บัตรรัฐธรรมนูญ กับ บัตรเอ็มโอยู อยู่ในบัตรเดียวกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการในช่วงขานคะแนนได้มากน้อยแค่ไหน ทำให้ประหยัดงบประมาณ จำนวนบัตรน้อย
“แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ กระดานนับคะแนนมีตามคำถาม มี 4 คำถาม ก็ 6 กระดาน (สส.เขต,สส.ปาร์ตี้ลิสต์,ประชามติรัฐธรรมนูญคำถามที่1 ,คำถามที่ 2, MOU43,MOU44) เวลาขานคะแนน ซึ่งเป็นเรื่องของการบริหารจัดการและงานธุรการของกกต. เป็นงานหมูของเรา แต่เพิ่มงานให้เราแน่ แต่ก็เหมือนกับการเลือกตั้ง แต่อย่าทำให้เหมือนยาก ว่าต้องไปทั้งประชามติ ทั้งเลือกตั้งในวันเดียวกัน ก็ให้รู้สึกว่าให้มาที่หน่วย มาเลือกตั้งหน่วยเดียว หน่วยเดิม แค่เพิ่มบัตรอีก 1 บัตร และก็หย่อนให้ถูกเท่านั้นเอง”นายแสวงกล่าว
เมื่อถามว่า แนวโน้มหรือความเป็นไปได้ที่การเลือกตั้งกับการออกเสียงประชามติจะใช้บัตรกี่ใบ 3 ใบ หรือ 4 ใบ นายแสวงกล่าวว่า คงจะตอบตอนนี้ไม่ได้ มีเหตุผลของมัน ซึ่งบัตรจะ 2 ใบ หรือ 3 ใบ ไม่เป็นปัญหากับ กกต. แต่ต้องเอาความสะดวกของประชาชนเป็นหลัก ไม่เพิ่มความสับสนหรือเพิ่มบัตรเสีย
@ ประชามติไม่มีออกเสียงล่วงหน้า
นายแสวงกล่าวว่า ในส่วนของการทำประชามตินอกราชอาณาจักร ต้องนับคะแนนที่หน่วยในต่างประเทศ กระทรวงต่างประเทศก็จะลำบากขึ้น ไม่เหมือนกับบัตรการเลือกตั้ง สส.ต้องนับที่ กกต. ส่วนการเลือกตั้ง สส. มีการลงคะแนนล่วงหน้า แต่การออกเสียงประชามติไม่มีการลงคะแนนล่วงหน้า แต่ประชามตินอกเขตได้และต้องไปลงคะแนนวันเดียวกับวันเลือกตั้ง ซึ่งมีรายละเอียดในการบริหารจัดการพอสมควร เกิดความถูกต้อง พูดภาษากฎหมายก็คือ ผิดแค่ .00 % ก็ไม่ได้ ต้องถูกต้องทั้งหมด
นายแสวงกล่าวว่า ในเรื่องการรายงานผลคะแนน ถ้าบริหารจัดการหน่วยดี 23.00 น.จะนับคะแนนจบครบทุกกระดาน ไม่ต้องรู้ถึงวันรุ่งขึ้น

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา