นายกฯยันปรินซ์อินเตอร์ฯเช่าตึกซิโน-ไทยไม่เกี่ยวครอบครัว ไม่กลัวโดนสอบจริยธรรม ตั้ง ‘วรภัค’

นายกฯแจงกรณี ‘ปรินซ์อินเตอร์ฯ’ เช่าตึกซิโน-ไทยเป็นสำนักงาน ชี้ไม่เกี่ยวครอบครัว ระบุถ้าพบว่าผู้เช่าผิดจริงก็ไม่ต่อสัญญา ส่วนกรณี ‘วรภัค’ ไม่กลัวถูกยื่นสอบจริยธรรม ด้าน ‘เอกนิติ’ ยันไม่กระทบการทำงานที่ ‘คลัง’ ก่อนแย้มนายกฯจ่อตั้งกรรมการสแกนเส้นเงิน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 24 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางเข้าพบผู้ถือหุ้นบริษัท ปรินซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Prince International) เพื่อบันทึกการสอบปากคำและรับมอบพยานเอกสาร ตามที่ผู้ถือหุ้นประสงค์ให้ความร่วมมือชี้แจงต่อดีเอสไอ หลังพบว่า มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายบริษัท ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป (Prince Holding Group) ซึ่งมีนายเฉิน จื้อ หรือวินเซนต์ ชาวอังกฤษเชื้อสายกัมพูชา ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทฯ อีกทั้งบจ.ปรินซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลเช่าสำนักงานอยู่ในอาคารของบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) นั้น ซิโน-ไทยมีรายได้จากการเป็นอาคารให้เช่า ใครอยากเช่าก็สามารถเช่าได้ทั้งหมด แต่หากเช่าแล้วทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ขออย่าผูกโยงกัน แต่หากบริษัทซิโน-ไทยเป็นผู้ทำสแกมเมอร์เอง จึงค่อยพิจารณาว่าเกี่ยวข้องกับครอบครัวหรือไม่

ส่วนกรณีบริษัท ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ปที่เข้ามาเช่าอาคารนั้น นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คำว่า ‘ปรินซ์ กรุ๊ป’ เป็นคอมมอนเนม (ชื่อที่พบได้ทั่วไป) ซึ่งได้สอบถามคนในครอบครัวแล้ว หากเกี่ยวข้องก็จะไม่มีการต่อสัญญาเช่าเท่านั้น เป็นเรื่องของการประกอบธุรกิจ อย่าผูกโยงเป็นเรื่องเดียวกัน

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานจากดีเอสไอแล้วหรือยัง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทราบเพียงว่า กลุ่มปรินซ์ กรุ๊ปทำผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้สนใจว่าอยู่ที่ไหน หากอยู่ที่ไหนก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เดิมตรวจสอบแล้วไม่พบความเกี่ยวข้อง แต่เมื่อมีการตรวจสอบเพิ่มเติมแล้วปรากฏว่ามีความเกี่ยวข้อง ก็ต้องดำเนินคดี

ส่วนกรณีนายวรภัค ธัญญาวงศ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังมีการพูดคุยกันหรือยัง นายอนุทินกล่าวว่า ได้พูดคุยแล้ว และเข้าใจกัน

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าการแต่งตั้งนายวรภัคอาจกระทบต่อจริยธรรม นายกรัฐมนตรีมีความกังวลหรือไม่ว่าจะถูกร้องเรียนจริยธรรม นายอนุทินกล่าวว่า ไม่กลัว ทุกอย่างเราตรวจสอบแล้ว ตอนนี้เป็นเพียงข้อครหา ยังไม่มีคดีอะไร ก็ต้องดูว่า หากข้อครหามีหลักฐาน ก็เป็นข้อกล่าวหาที่ต้องดำเนินคดีต่อไป โดยที่นายวรภัคได้ส่งหนังสือชี้แจงมายังตนตั้งแต่สามวันก่อนแล้ว

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การลาออกของนายวรภัคไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของกระทรวงการคลัง ยังทำงานปกติ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

ส่วนกรณีที่มีการเปิดเอกสารของทางสิงคโปร์ ซึ่งมีการโอนคริปโตไปให้ภรรยาของนายวรภัค ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะต้องมีการเพิ่มงวด หรือมีความชัดเจนในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายเอกนิติ กล่าวว่า นายวรภัคแสดงสปิริต อันนี้ต้องชื่นชม นายวรภัคออกไปต่อสู้ในฐานะบุคคล ถือเป็นเจตนารมณ์ ซึ่งนายวรภัคได้โทรศัพท์บอกแล้วว่า ต้องการโชว์ว่าไม่ต้องการใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการต่อสู้ในเรื่องการกล่าวหา ก็ต้องให้ความเป็นธรรม ซึ่งนายวรภัคได้แถลงไปแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว

เมื่อถามย้ำว่า ในส่วนของ ก.ล.ต.จะต้องมีการตรวจสอบหรือไม่ นายเอกนิติ กล่าวว่า เข้าใจว่า วันนี้ (24 ต.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อให้ตนดูแลเรื่องการเงิน ก็จะมี ก.ล.ต. เส้นทางทางการเงินทั้งหลาย โดยวันนี้อธิบดีกรมการปกครองในฐานะเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จะเสนอนายกฯ โดยมีตนเป็นประธาน และมี ก.ล.ต.เป็นองค์ประกอบแน่นอน