'อนุทิน' ปาฐกถาพิเศษ ชี้ 'หลักนิติธรรม' เสาเข็มสำคัญ ดันขึ้นวาระแห่งชาติ เป็นต้นทุนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจดึงดูดนักลงทุน ยันไม่ยอมให้ใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ทางการเมือง-กลั่นแกล้ง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษบนเวทีสาธารณะด้านหลักนิติธรรม ครั้งที่ 3 The Third Rule of Law Forum จัดโดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ)
นายอนุทิน กล่าวถึงความสำคัญเร่งด่วนของการยกระดับหลักนิติธรรม (Rule of Law) ให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยระบุว่าหลักนิติธรรมคือ 'เสาเข็มที่สำคัญของสังคม' และเป็นปัจจัยชี้ขาดความอยู่รอดและความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
นายอนุทิน กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเองเป็นวิศวกรที่ให้ความสำคัญกับรากฐานที่มั่นคง หลักนิติธรรมจึงเปรียบเสมือนโครงสร้างที่จำเป็นที่สุดของประเทศ และจะต้องให้ความยุติธรรมกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่เพื่อบางคน (For Some) และการสร้างโครงสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแรงต้องอาศัยกฎหมายที่มีความมั่นคง แน่นอน และคาดเดาได้เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับนักลงทุน
“หลักนิติธรรมคือ ต้นทุนสำหรับความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ หากหลักนิติธรรมอ่อนแอ ประเทศนั้นจะไม่สามารถรักษาความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจได้ นักลงทุนหนีหายหมด” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน กล่าวถึงปัญหาที่คุกคามประเทศในปัจจุบัน ว่า มีปัญหาทั้งความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ อาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด และการใช้อำนาจในทางที่ผิด โดยได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการกระทำที่เรียกว่า การใช้กฎหมายในทางที่ไม่ถูกต้อง (Law Abuse)
“การใช้กฎหมายในทางที่ผิดนั้น หนักยิ่งกว่าการทุจริต ที่คิดเป็นตัวเงิน เพราะมันยึดครองทุกอย่างได้หมด รัฐบาลจะไม่ยอมให้มีการใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ทางการเมือง กลั่นแกล้ง หรือเลือกปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายโดยเด็ดขาด” นายอนุทิน ระบุ
นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานต่างๆ มีความกล้าหาญ ที่จะรักษาและยึดถือหลักนิติธรรมอย่างเข้มแข็ง โดยอ้างอิงคำกล่าวที่ว่า "Power tends to corrupt, absolute power corrupts absolutely"
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ความพยายามของประเทศไทยในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ OECD (Organization for Economic Co-operation and Development) เป็นการยกระดับมาตรฐานประเทศให้ทัดเทียมกับสากลทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ ธรรมาภิบาล และหลักนิติธรรม
ทั้งนี้ สำหรับการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการยกระดับ ความโปร่งใส (Open Government) โดยใช้เทคโนโลยี AI และดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนและสมาคมวิชาชีพต่างๆ สามารถ ติดตาม ตรวจสอบ และมีส่วนร่วม อย่างแท้จริงในการตัดสินใจและทุกขั้นตอนของการใช้งบประมาณ
"แม้ทุกประเทศจะเป็นนิติรัฐอยู่แล้ว แต่เป้าหมายสำคัญคือการทำให้หลักนิติธรรม (Rule of Law) เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับความยุติธรรม และนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของประเทศโดยรวม" นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้าย
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 