
'ทอม ไรต์' ออกบทความโต้ 'ธรรมนัส' หลังรองนายกฯให้สัมภาษณ์อิศราขู่เรียกค่าเสียหายพันล้าน พร้อมแจ้งความให้ ตร.สากลให้ออกหมายแดงจับอดีตผู้สื่อข่าว WSJ ยอมรับเป็นเรื่องน่ากังวล เหตุหมายแดงกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง ถามทำไม รมต.ไทย ร่วมมือกับ 'เบนจามิน' รวมถึงไปร่วมงานบ่อยครั้ง ยืนยันไม่กลัว จะนำเสนอข่าวต่อไป
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ ‘เบน สมิธ’ ซึ่งถูกระบุชื่อในบทความของ นายทอม ไรต์์ สื่อมวลชนอิสระ อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าววอลสตรีทเจอร์นัล (WSJ) และหนึ่งในผู้สื่อข่าวที่เปิดโปงการทุจริต เงินกองทุนเพื่อการพัฒนาของรัฐ “1 มาเลเซีย ดีเวลอปเมนต์ เบอร์ฮัด" (1MDB) ที่เผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ Whalehunting.projectbrazen.com
ขณะที่นายเมาเออร์เบอร์เกอร์เองก็ได้มีการออกแถลงว่าจะดำเนินคดีกับนายทอมไรต์ที่เขียนบทความหมิ่นประมาท ได้มีการมอบหมายให้นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่าา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรองนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องคดี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา พร้อมทั้งฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งเป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท
เช่นเดียวกับ ร.อ.ธรรมนัสที่ยืนยันกับสำนักข่าวอิศราว่าจะไปแจ้งความ นายทอมไรต์ ที่สถานีตำรวจภูธรพะเยา

- ที่ปรึกษา'ธรรมนัส'รับอำนาจ‘เบนจามิน’ฟ้อง‘โรม’อภิปรายหมิ่นฯ ยันปกป้องสิทธิ ไม่ได้ปิดปาก
- 'เบนจามิน' ออกแถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาบทความ 'ทอม ไรท์' เตรียมฟ้องอดีตผู้สื่อข่าว WSJ
สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวความคืบหน้าเรื่องนี้ล่าสุดว่าเมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายทอม ไรต์ ได้มีการลงบทความฉบับใหม่ตอบโต้ ร.อ.ธรรมนัส ลงบนเว็บไซต์ Whalehunting.projectbrazen.com ระบุเนื้อหาสรุปว่า
ในการสัมภาษณ์ที่เผ็ดร้อนกับสื่อไทย (นายทอม ไรต์ได้มีการลงบทความที่มีลิงก์ถึงสำนักข่าวอิศรา) ร.อ.ธรรมนัสปฏิเสธทุกสิ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับเมาเออร์เบอร์เกอร์ ในขณะเดียวกันก็ขู่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นพันล้านบาทกับใครก็ตามที่เชื่อมโยงเขากับนายเมาเออร์เบอร์เกอร์ คำปฏิเสธของเขานั้นน่าสนใจอย่างยิ่งในแง่ของความเจาะจง และสิ่งที่เขาไม่ได้พูดถึง [หมายเหตุ: จนกระทั่งบทความนี้ เราไม่เคยเอ่ยถึงชื่อร.อ.ธรรมนัส และไม่เคยกล่าวหาเขาแต่อย่างใด]

นายทอมไรต์กล่าวอีกว่ามีประเด็นที่น่าสงสัยส่วนหนึ่งในคำสัมภาษณ์ของ ร.อ.ธรรมนัสว่า ทำไมที่ปรึกษาด้านกฎหมายของเขาจึงร่วมมือกับนายเมาเออร์เบอร์เกอร์ในการฟ้องร้อง ส.ส. ฝ่ายค้าน รวมถึงข้อสงสัยที่ว่าทำไม ร.อ.ธรรมนัสถึงได้ไปร่วมงานกับนายเมาเออร์เบอร์เกอร์อยู่บ่อยครั้ง
อดีตผู้สื่อข่าว WSJ กล่าวต่อไปด้วยว่า การทำข่าวสืบสวนนี้ต้องใช้เวลาทำงานหลายเดือนในหลายเขตอำนาจศาล คำขู่ทางกฎหมายอย่างที่ร.อ.ธรรมนัสใช้นั้นมีเป้าหมายเพื่อบั่นทอนทรัพยากรและสร้างความกลัว แต่เราจะไม่ยอมแพ้ และเราต้องการการสนับสนุนจากคุณ (ผู้อ่านบทความ) และได้กล่าวย้ำอีกว่าจะตีพิมพ์ทุกอย่าง
นายทอม ไรต์กล่าวทิ้งท้ายว่าส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าจะมีการแจ้งความส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุด เพื่อให้มีการออกหมายแดงของตำรวจสากลในการจับ นายทอม ไรต์ นั้น ต้องเรียนว่าคำขู่ของ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว แต่เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบที่น่ากังวลทั่วโลก ที่ระบบหมายแดงของตำรวจสากล (Interpol) กลายเป็นอาวุธยอดนิยมของผู้ที่มีอำนาจ
ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยจับกุมอาชญากรข้ามชาติอย่างแท้จริง แต่ในปี 2564 เราได้เห็นจีนใช้ระบบนี้เพื่อตามตัวนักเคลื่อนไหวชาวอุยกูร์ นายอิดริส ฮาซาน ซึ่งถูกจับกุมในโมร็อกโกด้วยหมายแดงที่พุ่งเป้าไปที่เขาเพียงเพราะเป็นผู้เห็นต่าง ผู้สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนเรียกกรณีนี้ว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ตำรวจสากลสามารถถูกนำไปใช้เพื่อการคุกคามทางการเมืองได้อย่างไร
“และตอนนี้ เรามีรองนายกรัฐมนตรีของไทยที่กำลังใช้คำขู่แบบเดียวกันกับใครก็ตามที่กล้าตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ของเขากับบุคคลที่ถูกกล่าวหาเครือข่ายอาชญากรรม ความน่าขันนี้คงจะหัวเราะไม่ออกหากผลที่ตามมาไม่ได้ร้ายแรงขนาดนี้” นายทอมไรต์กล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา