‘ชลน่าน’ ชี้ รบ.เฉพาะกิจ 4 เดือน เพื่อ 4 ปี - ‘อนุทิน’ ลั่น โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายนโยบายรัฐบาล 4 เดือน ยุบสภา 4 เดือน ยุบคดี 4 หายนะ ชี้ นโยบายเฉพาะกิจเพื่อคะแนนนิยม-สืบทอดอำนาจ ด้าน อนุทิน ชาญวีรกูล สวนกลับ เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่เข้ามาแก้ไขความเสียหายของประเทศที่เกิดจากรัฐบาลที่แล้ว ลั่น ใจกล้าให้ทุกคนตรวจสอบ โปร่งใส-ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 29 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 โดยไม่มีการลงมติ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม

ทั้งนี้ คณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย ได้ปรึกษาหารือในเรื่องการจัดสรรเวลาการอภิปรายตั้งแต่วันที่ 29-30 ก.ย.68 แบ่งออกเป็น ประธานในที่ประชุม 1 ชั่วโมง ครม. 6 ชั่วโมง สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 3 ชั่วโมง สส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน 15 ชม. แบ่งออกเป็น สส.วิปฝ่ายค้าน 9 ชั่วโมง พรรคเพื่อไทย 6 ชั่วโมง (อภิปราย 26 คน) ซึ่งการพิจารณาในวันนี้ (29 ก.ย.68) จะใช้เวลา 16 ชั่วโมง ซึ่งจะจบการอภิปรายในวันนี้เวลา 01.00 น. ถ้าใช้ไม่หมดให้ตัดทิ้ง หลังจากนายอนุทินแถลงนโยบายแล้ว สส.ฝ่ายค้าน และ สว. ฝ่ายละ 3 คนจะเริ่มอภิปรายก่อน

@ 4 เดือน ยุบสภา 4 เดือน ยุบคดี

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า 4 เดือนที่นายอนุทินจะยุบสภา มั่นใจว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นจะดึง ถ่วง และยุบคดีที่เป็นปัญหา และหลังจากนั้นจะเป็น 4 หายนะให้กับประเทศ

นพ.ชลน่านกล่าวว่า นโยบายที่นายอนุทินแถลงต่อรัฐสภาในวันนี้ ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลา รัฐบาลเสียงข้างน้อย และต้องปฏิบัติตามภารกิจเฉพาะ เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่ต้องปฏิบัติตามบทเฉพาะกาล ด้วยความเป็นรัฐบาลเฉพาะ ออกนโยบายเฉพาะกิจและทำตามบทเฉพาะกาล และสิ่งที่ทำไม่ได้เลย คือ นโยบายตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้ ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำไม่ได้ หรือ ถ้าทำได้ก็ทำได้เฉพาะบทเฉพาะกาลที่กำหนดให้เท่านั้น

“เมื่อเป็นนโยบายเฉพาะกิจเพื่อการเลือกตั้ง สิ่งที่รัฐบาลนี้ต้องเน้น ต้องใช้ความเป็นเฉพาะกิจให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ประโยชน์ที่จะได้โอกาส ได้คะแนนนิยมจากประชาชนเพื่อชนะเลือกตั้งให้ได้คะแนนสูงสุดในวันที่ 22 หรือ 29 มี.ค.69 เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนนิยม และผลการเลือกตั้งที่จะส่งให้สืบทอดอำนาจไปอีก 4 ปี 4 เดือนเพื่อ 4 ปี กินรวบประเทศไทย”นพ.ชลน่านกล่าวและว่า

“การจัดรัฐมนตรีที่มาจากบุคคลภายนอก ภาพสวยงามมาก ผลงานเป็นที่ประจักษ์ ดาบอาญาสิทธิ์ที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ มอบให้ แปลงดาบอาญาสิทธิ์มาเป็นกำไร มาเป็นผลงาน นี่คือการสร้างคะแนนนิยม เกิดประโยชน์สุด ไม่ได้บอกว่าทำผิด แต่นี่คือกลไกอันแยบยล แต่อีกกลุ่มหนึ่งที่มาสร้างคะแนนในพื้นที่ คือ รัฐมนตรีที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อคะแนนนิยมในพื้นที่ มีความสามารถในการบริหารจัดการพื้นที่อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จึงเป็นนโยบายเฉพาะกิจเพื่อการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจใน 4 ปี”นพ.ชลน่านกล่าว

นพ.ชลน่านกล่าวว่า จึงเป็นที่มาของนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาจะเป็นปัญหามากกว่าทางออก เป็นปัญหาที่เข้าขั้นหายนะ เป็นนโยบายของการสืบทอดอำนาจ

@ สสร.- รัฐธรรมนูญ ‘สีน้ำเงิน’

นพ.ชลน่านกล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะถูกยกร่างด้วยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) สีน้ำเงิน และรัฐธรรมนูญฉบับนั้นจะเป็นสีน้ำเงิน ไม่ใช่เรื่องยาก เรื่องกว่านี้ก็ทำมาแล้ว ซึ่งภาคประชาชนประกาศชัดว่า ถ้า สสร.สีน้ำเงิน รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นสีน้ำเงิน ประชามติรณรงค์ทั่วประเทศไม่ผ่าน เข้าทางคนที่ไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ

“รัฐบาลที่มาจากเฉพาะกลุ่มเฉพาะที่ หลายคนขนานนาม รัฐบาลอนุวิน รัฐบาลเนทิน หรือ รัฐบาลหนูเน หมายความว่า ความเป็นรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ใช้กลไกอำนาจบริหารที่แท้จริง”นพ.ชลน่านกล่าว

นพ.ชลน่านอภิปรายขมวด 4 หายนะของประเทศ ว่า หายนะแรก หายนะทางประชาธิปไตย หายนะที่สอง หายนะความโปร่งใส หายนะที่สาม คือ หายนะด้านการบริหารจัดการประเทศ และหายนะที่สี่ หายนะทางโอกาสของประชาชน

@ รัฐบาลเฉพาะกิจที่เข้ามากู้ความเสียหาย

ด้านนายอนุทินลุกขึ้นกล่าวชี้แจงว่า ขอให้ความมั่นใจว่า รัฐบาล 4 เดือน เต็มไปด้วยบุคลากรที่มีฝีมือ มีความสามารถ ประสบความสำเร็จในชีวิต ความโปร่งใสเกิดจากการต้องทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ที่สำคัญต้องใจกล้าให้ทุกคนมาตรวจสอบได้ ยืนยันว่า รัฐบาลจะต้องโปร่งใสและมีการตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

“ท่านกล่าวหาว่า รัฐบาลนี้จะเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ ไม่ผิด เวลา 4 เดือนก่อนยุบสภา ขอนับวันที่ 1 ต.ค.68 เป็นวันแรก นับไป 4 เดือน วันที่ 31 ม.ค.69 ยุบสภาแน่นอน รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจแต่ติ่งท้ายที่ผมอยากจะขอกระทำและทำให้สำเร็จ คือ จะเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่ต้องเข้ามาแก้ไขความเสียหายของประเทศที่เกิดจากรัฐบาลที่แล้วมา”นายอนุทินกล่าว