‘วันนอร์’ เบรก อภิปรายคุณสมบัติ ‘แคนดิเดตนายกฯ’ – ‘เลขาฯสภา’ คาด 2 ชม.นับคะแนนเสร็จ

วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ห้าม อภิปรายความรู้-ความสามารถ ปัญหาตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้รอวันแถลงนโยบาย - ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิด 5 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีสิทธิ์เสนอชื่อชิงนายกฯ จับตา องค์ประชุมครบ เลื่อน-ไม่เลื่อน วาระขึ้นมาโหวตก่อน คาดประมาณ 2 ชั่วโมงได้นายกฯคนใหม่

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 4 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 ก.ย.68 ว่า ขณะนี้ตนเองได้อนุญาตให้ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร บรรจุระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพิ่มเติม เรื่องด่วนที่ 8 เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 159 แล้ว

อ่านข่าวประกอบ : ‘เลขาฯสภาผู้แทนราษฎร’ บรรจุวาระเพิ่มเติม-เรื่องด่วน เลือกนายกรัฐมนตรี วันที่ 5 ก.ย.68

“เมื่อถึงวาระนี้แล้ว เป็นเรื่องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่จะเสนอชื่อบุคคลใด ส่วนผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจะต้องแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่นั้น เนื่องจากไม่มีข้อบังคับและรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้ ไม่เหมือนกับการเลือกประธานและรองประธานสภาฯ ซึ่งข้อบังคับเขียนไว้ว่าให้แสดงวิสัยทัศน์ก่อนเพื่อให้สมาชิกสภาฯ พิจารณาเลือก”นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว

@ ห้ามอภิปรายความรู้-ความสามารถ ปัญหาตัวแคนดิเดตนายกฯ

นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเลือกนายกรัฐมนตรีภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 60 สามคน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไม่มีการแสดงวิสัยทัศน์ เพราะไม่ได้เป็น สส. และตอนเสนอชื่อ ไม่ได้อยู่ในสภา ยกเว้นเมื่อครั้งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่มีการแสดงวิสัยทัศน์ เนื่องจากนายพิธาแจ้งความจำนงขอแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งสภาได้ให้อนุญาตแสดงวิสัยทัศน์ 10 นาที

“ครั้งนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในสภา (เป็น สส.) หรือ ไม่ได้อยู่ในสภา (ไม่ได้เป็น สส.) ดังนั้น การจะมีการแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่นั้น จึงขึ้นอยู่กับว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใดจะเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อ และขึ้นอยู่กับสภาฯ ว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ”นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า สส.สามารถอภิปรายแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการเสนอชื่อได้หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า การแสดงความเห็นถึงเหตุผลของการเสนอชื่อแคนดิเดตนนายกรัฐมนตรีคนใดและเพราะอะไรสามารถทำได้ แต่จะนำเรื่องความรู้ความสามารถหรือปัญหาของตัวบุคคลขึ้นมาอภิปรายไม่ได้ เนื่องจากผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาฯเพื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมาแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาอยู่แล้ว ดังนั้น วันที่แถลงนโยบาย สมาชิกสภาฯสามารถอภิปรายได้ ทั้งในเรื่องความรู้ความสามารถ และเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ผิดกับข้อบังคับ

@ เปิดชื่อ 5 แคนดิเดตนายกฯ

ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา ถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มีสิทธิ์เสนอชื่อในสภาฯ ว่า สำหรับพรรคการเมืองที่มีจำนวน สส. ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของ สส.ทั้งหมดที่มีอยู่ของสภาในปัจจุบัน หรือ ตั้งแต่ 25 คนขึ้นไป จากทั้งหมด 492 คน และอยู่ในบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่แจ้งไว้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนการเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 ที่สามารถเสนอชื่อให้ที่ประชุมสภาฯ เห็นชอบมีทั้งหมด 5 รายชื่อ ดังนี้

“1.นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย 2.นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย 3.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 4.นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ และ 5.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคประชาธิปัตย์”ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์กล่าว

ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 ก.ย.68 เวลา 09.00 น. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ถูกเสนอชื่อจะต้องมี สส.รับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวน สส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภา โดยวิธีการลงคะแนนให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการเสนอชื่อต้องกระทำโดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน สส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภา หรือ ไม่น้อยกว่า 247 เสียงขึ้นไป จากจำนวน สส. 492 เสียง

@ ลุ้น องค์ประชุมครบ เลื่อน-ไม่เลื่อนวาระเลือกนายกฯ ก่อน

ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์กล่าวว่า การประชุมสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.68) จะเริ่มขึ้นได้ก็ต้องรอให้ ครบองค์ประชุม หรือ มี สส.เข้าร่วมประชุมครบ 246 คนก่อน และเนื่องจากระเบียบวาระการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ อยู่ในวาระ เพิ่มเติม เรื่องด่วนที่ 8 ซึ่งเป็นวาระลำดับสุดท้ายของเรื่องด่วน ดังนั้น จึงต้องเสนอญัตติเพื่อขอเลื่อนวาระ เรื่องด่วนที่ 8 ขึ้นมาพิจารณาให้ได้ก่อน หากมี สส.คัดค้าน จะต้องมีการลงมติตัดสินโดยใช้เสียงข้างมากว่าจะเห็นชอบให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือไม่

“ถ้ามีผู้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงชื่อเดียว สส.ลงคะแนนด้วยการบอกว่า เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ แต่ถ้ามีผู้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมากกว่า 1 ชื่อ ให้ สส.ขานชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากใช้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยบันทึกคะแนน”ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์กล่าว

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวาระเรื่องด่วน ลำดับที่ 1 ถึง ลำดับที่ 7 ซึ่งมีทั้งที่ สส. และ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ประกอบด้วย 1.ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 2. ร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

3. ร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 4. ร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

5. ร่าง พ.ร.บ.อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. .... 6. ร่าง พ.ร.บ.ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน พ.ศ. .... และ 7. ร่าง พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....