กัมพูชาพาผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่ จ.พระวิหาร คาดโต้ไทย หลังอ้างอีกฝ่ายนำทูตทหารรุกล้ำแดน

กัมพูชานำทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียนลงพื้นที่ จ.พระวิหาร คาดตอบโต้ไทย หลังกัมพูชาอ้างฝายไทยนำผู้สังเกตการณ์เข้ารุกล้ำแดน โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ขณะอันวาร์โพสต์เฟซแจงสนทนากับผู้นำกัมพูชา-ไทย เป็นข้อบ่งชี้ต้องตั้งทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียนอย่างเป็นทางการ

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวทีมสังเกตการณ์ของอาเซียน ซึ่งติดตามขัอตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา โดยอ้างอิงข้อมูลจากสื่อในกัมพูชาว่า เช้าวันที่ 20 ส.ค.ทีมผู้สังเกตการณ์ได้เดินทางไปยังจังหวัดพระวิหารเพื่อสังเกตการณ์สถานการณ์ตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลจากการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศ โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงเรื่องนี้

พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยืนยันว่าเช้าวันนี้ ภายใต้การประสานงานของกระทรวงกลาโหมกัมพูชา คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจาก 5 ประเทศ นำโดยพันเอกนาซลี บิน อับดุล ราฮิม ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำกัมพูชา ได้เดินทางออกจากกรุงพนมเปญไปยังจังหวัดพระวิหาร เพื่อสังเกตการณ์ ตรวจสอบ และรายงานสถานการณ์ภายหลังการหยุดยิงมีผลบังคับใช้ โดย 5 ประเทศที่เข้าร่วมการสังเกตการณ์ในวันนี้ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

ภารกิจนี้เกิดขึ้นจากผลการประชุมพิเศษที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค.และการประชุมพิเศษของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) ในประเทศมาเลเซีย 

ย้อนไปเมื่อบ่ายวันที่ 19 ส.ค. นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนแบบหมุนเวียน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับพล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาอีกครั้ง หลังจากนั้น นายอันวาร์ยังได้ติดต่อนายภูมิธรรม เวชชยชัย นายกรัฐมนตรีรักษาการไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทย

จากการโพสต์โซเชียลมีเดียของนายอันวาร์ ทั้งการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและนายกรัฐมนตรีรักษาการไทย ตอกย้ำความสำคัญของคณะผู้สังเกตการณ์ช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งได้ทำงานอย่างแข็งขันในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ และเรียกร้องให้จัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) อย่างเป็นทางการโดยเร็ว ซึ่งทั้งสองคณะนี้เป็นกลไกสำคัญในการติดตามและกำกับดูแลการปฏิบัติตามการหยุดยิงอย่างมีประสิทธิภาพ

การประชุมระหว่างประธานอาเซียนกับผู้นำกัมพูชาและไทย เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยทูตทหารจาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน เข้าไปในดินแดนกัมพูชาในเขตอานเซพาส อำเภอจวมกะสัน จังหวัดพระวิหาร โดยที่ไทยไม่ได้แจ้งให้ฝ่ายกัมพูชาทราบล่วงหน้า การเยือนกัมพูชาของคณะผู้สังเกตการณ์ในวันนี้ อาจเป็นการตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้ เพื่อสังเกตการณ์สถานการณ์ต่อไป

เรียบเรียงจาก:https://www.kampucheathmey.com/local-news/972501