
คณะกรรมการคดีพิเศษ มีมติสองในสาม รับเรื่องเรียกรับเงินเพื่อต่อใบอนุญาตทำงานแรงงานกัมพูชาเป็นคดีพิเศษ ดำเนินคดีอาญาคนไทย-ต่างชาติ ร่วมกันกระทำเป็นขบวนการหลอกลวงเรียกรับเงินจากนายจ้าง-แรงงานต่างด้าว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 15 สิงหาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ครั้งที่ 4/2568 ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยที่ประชุม กคพ. มีมติสองในสาม (กรรมการ กคพ. มาประชุม 21 ราย) รับกรณีเรียกรับเงินเพื่อต่อใบอนุญาตทำงานแรงงานกัมพูชาเป็นคดีพิเศษ

ทั้งนี้ ที่ประชุม กคพ. มีมติเห็นชอบให้คดีความผิดทางอาญาอื่น กรณีการกระทำความผิดของชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมกันกระทำเป็นขบวนการหลอกลวงหรือกระทำด้วยวิธีการอื่นใด โดยเรียกรับเงินจากนายจ้างและแรงงานต่างด้าว เพื่อให้ได้รับการต่อใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยอันมิชอบด้วยด้วยกฎหมาย ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 สำหรับแรงงานชาวกัมพูชาเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากการสืบสวนเบื้องต้นของดีเอสไอ ปรากฎข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานพบว่า มีการกระทำความผิดทางอาญาฐานอั้งยี่และฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 และมาตรา 341 โดยพฤติการณ์แห่งคดีเชื่อว่าได้มีการกระทำในลักษณะเป็นขบวนการที่สมคบคิดกันทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ (สัญชาติกัมพูชา) มีการวางแผนเป็นขั้นตอน ปกปิดวิธีดำเนินการและแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อร่วมกันหลอกลวงและเรียกรับเงินจากนายจ้างและแรงงานต่างด้าวที่ประสงค์จะต่อใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย อันเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่มีสิทธิที่จะเรียกรับเงินดังกล่าว และยังมีความเชื่อมโยงกับอดีตรัฐมนตรีแรงงานด้วย
อ่านข่าวประกอบ : ‘ภูมิธรรม’ ถก ‘กคพ.’ ปม ‘หัวคิวแรงงานกัมพูชา’ สะพัด โยง ‘อดีตรัฐมนตรี’

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา