
เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'อนุวัตร นาคฤทธิ์' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลถ้ำใหญ่ นครศรีธรรมราช มีส่วนได้เสียจัดซื้อจ้างเอกชนหลายสัญญา ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนโทษ จำคุก 40 ปี - พวกลดเหลือ 16 ปี 48 ด. ได้รอลงอาญา - ป.ป.ช.เห็นพ้องอัยการ ไม่ฏีกาสู้แล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายอนุวัตร นาคฤทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลถ้ำใหญ่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช กับพวก คือ นางสาวธัญญ์วรัตน์ กาญจนวรินทร์ เข้ามีส่วนได้เสียทั้งทางตรงและทางอ้อม กรณีสั่งซื้อสั่งจ้างกับห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) กรภัทร์หลายสัญญา ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 152 และ 157 และ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2554 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 192 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564
ความคืบหน้าล่าสุด ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8
จากเดิมพิพากษาว่า
1. นายอนุวัตร นาคฤทธิ์ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามกฎหมาย ลงโทษจำคุกกระทงละ 5 ปี จำนวน 8 กระทง รวมจำคุก 40 ปี
2. นางสาวธัญญ์วรัตน์ กาญจนวรินทร์ จำเลยที่ 2 มีความผิดตามกฎหมาย ลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน จำนวน 8 กระทง รวมจำคุก 24 ปี 32 เดือน
แก้คำพิพากษาเป็น
ในส่วน นางสาวธัญญ์วรัตน์ กาญจนวรินทร์ จำเลยที่ 2 ปรับจำเลยกระทงละ 25,000 บาท คำให้การมีประโยชน์ลดโทษให้รวม 8 กระทง คงจำคุก 16 ปี 48 เดือน และปรับ 150,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ให้คุมความประพฤติ ทำกิจกรรมบริการสังคม และสาธารณประโยชน์
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ได้พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฏีกาคำพิพากษาดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 152 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา