
‘คมนาคม’ เด้งรับแนวคิด ‘ทักษิณ’ ให้สนามบินทอท.ขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (PSC) ‘สุริยะ’ สั่งศึกษาโมเดลเปรียบเทียบ ‘สิงคโปร์-ฮ่องกง’คาดรู้ผลอีก 2 เดือน ด้าน ทอท. เผยเตรียมปรับขึ้นค่า PSC อีก 35 บาทมีผลต้นปี 69 นี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวบนเวทีเสวนาของ อสมท.ถึงแนวคิดในการปรับอัตราค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charges : PSC) สำหรับผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ และภายในประเทศนั้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. ได้จ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาข้อมูล โดยจะพิจารณาเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ว่า มีการจัดเก็บในอัตราเท่าไร แตกต่างจากทอท.อย่างไร และกรณีที่สนามบินของทอท.จะปรับขึ้นค่า PSC ควรปรับในอัตราเท่าไร และจะส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้โดยสารหรือไม่ และจะทำให้ทอท.มีรายได้เพิ่มแค่ไหน
“ทอท.น่าจะสรุปการศึกษาใน 2 เดือนนี้ หลักการ ต้องดูประเทศอื่นว่าเก็บในอัตราเท่าไร แล้วของเราควรเท่าไรจึงจะเหมาะสม ซึ่งเก็บจากผู้โดยสารขาออก ส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารต่างชาติ มองว่าไม่น่าจะมีผลกระทบ ซึ่งรายได้จาก PSC นั้น จะทำให้ทอท.สามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงบริการ และนำไปลงทุนพัฒนาขยายสนามบิน เช่น โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) ได้อีกด้วย” นายสุริยะกล่าว
@ทอท.ดันเก็บ PSC 35 บาท / โกยรายได้ 20,000 ล้านบาท
ด้านนางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า สนามบินของทอท.ไม่ได้ปรับค่า PSC เป็นระยะเวลา 19 ปี โดยเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 มีการปรับขึ้นในอัตรา 30 บาท ทำให้ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ปรับจาก 700 บาทต่อคน เป็น 730 บาทต่อคน และ ผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ จาก 100 บาทต่อคน ปรับเป็น 130 บาทต่อคน
สำหรับกระบวนการพิจารณาปรับค่า PSC นั้น รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.เปิดเผยว่า ทอท.ได้เสนอสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)หรือ CAAT เสนอปรับขึ้นในอัตรา 35 บาทต่อคน แต่ได้รับอนุมัติที่ 30 บาทต่อคน ดังนั้น ล่าสุด ทอท.จึงได้เสนอ CAAT เพื่อขอปรับขึ้นอีก 5 บาทต่อคน และได้รับการเห็นชอบแล้ว จะทำให้ ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ จัดเก็บจาก 730 บาทเป็น 735 บาทต่อคน ผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ จาก 130 บาท เป็น 135 บาทต่อคน โดยเตรียมเสนอคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) อนุมัติ คาดว่าจะได้รับการพิจารณาเร็วๆนี้ และตามขั้นตอนต้องแจ้งให้ผู้โดยสารทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 4 เดือนหรือบังคับใช้ได้ช่วงต้นปี 2569
นอกจากนี้ ทอท.ยังอยู่ระหว่างศึกษาอัตราค่า PSC ที่เหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยจะนำปัจจัยที่เกี่ยวข้องมาร่วมพิจารณา เช่น การปรับขึ้นจะทำให้คนเดินทางลดลงหรือไม่ รวมถึงดูข้อมูลจากสนามบินรอบข้าง อย่างสนามบิน ชางฮี สิงคโปร์ ปัจจุบันเก็บค่า PSC ที่ประมาณ 1,300 บาท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทอท.ต้องปรับให้เท่ากับสนามบินชางฮี โดยคาดว่า จะสรุปผลศึกษาได้ในเดือนต.ค.นี้ จากนั้นจะเสนอไปที่ CAAT และเสนอคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ขออนุมัติ ตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งหากมีการปรับขึ้นค่า PSC จะทำให้ทอท.มีรายได้เพิ่ม ในขณะที่ก็ต้องปรับปรุงบริการให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ทอท.มีรายได้จากค่า PSC ประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี โดยนำส่วนต่างของรายได้ไปพัฒนาสนามบิน ซึ่งเป็นหลักการของสนามบินทั่วโลก ส่วนการจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค ( Aviation Hub) สนามบินเองต้องมีการวางแผนและปรับตัวให้สอดรับกับนโบายรัฐบาลมีนโยบายในการดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างเป็นระบบ
นางสาวปวีณา กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการรอบ 9 เดือนปี 2568 ยังถือว่าน่าพอใจ แม้จำนวนผู้โดยสารจะไม่เป็นไปตามเป้า แต่แนวโน้มช่วงไตรมาส 4 ปี 2568 คาดว่าจะดีขึ้น ขณะที่ Slot การบินเดือนก.ค.ปี 2568 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก.ค.ปี 2567 จากเที่ยวบินและนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มกลับมา เป็นผลจากที่รัฐบาลได้แก้ปัญหาเรื่องความเชื่อมั่น และจากที่ตนได้เข้ามาทำหน้าที่รักษาการฯซีอีโอ ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาได้พยายามอย่างเต็มที่ ทั้งการหารายได้เพิ่มและลดค่าใช้จ่าย และคาดรายได้ปี 2568 จะเพิ่มจากปี 2567 และผลดำเนินงานจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี
ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการ จำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) นั้น ทอท.ได้จัดจ้างสถาบันการศึกษา 2 รายเป็นที่ปรึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดลและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ศึกษาทั้งประเด็นด้านกฎหมาย เศรษฐศาสตร์ การเงิน และการบริหารธุรกิจ เพื่อวิเคราะห์ข้อจำกัดของสัญญาเดิม รวมถึงเสนอแนวทาง ที่เหมาะสมและเป็นธรรม คาดว่าจะได้ข้อสรุปตามระยะเวลาที่กำหนด 60 วัน จากนั้นจะเสนอต่อคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
ที่มาภาพปก: Facebook Suvarnabhumi Airport

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา