‘จุฬา’ ชี้ ‘ภาษีทรัมป์’ กระทบ EEC 18% แนะผู้ประกอบการปรับทิศทางส่งออกสินค้า-บริการ

‘จุฬา สุขมานพ’ ประเมินผลกระทบภาษีทัมป์ 36% กระทบไทย 18% ส่วนมากเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ชี้ผู้ประกอบการอาจต้องปรับทิศทางการส่งออกสินค้าและบริการใหม่ แต่กังวลเม็ดเงิน 200,000 ล้านบาท อาจจะกระทบ เพราะส่วนใหญ่ใช้สร้างโรงงาน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ. หรือ EEC) เปิดเผยว่า กรณีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเตรียมเรียกเก็บอัตราภาษีต่างตอบแทนผ่าน (Truth Social) ประเทศไทย 36% โดยจะเริ่มในวันที่ 1 ส.ค.นี้นั้น จะมีผลกระทบกับการลงทุนในพื้นที่ EEC บ้างในระยะแรก เพราะนักลงทุนที่ต้องส่งออกสินค้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา จะถูกเก็บภาษีดังกล่าวแน่นอน ทำให้สินค้าจากไทยที่ไปวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกามีราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การประกาศดังกล่าวของสหรัฐอเมริกายังไม่ใช่ข้อสรุปสุดท้าย ยังมีเวลาไปเจรจาพูดคุยกันอยู่ น่าจะมีในเชิงรายละเอียดออกตามมา

@กระทบ 18%

อย่างไรก็ตาม นายจุฬาระบุว่า สำหรับนักลงทุนในพื้นที่ EEC ไม่ได้มีเพียงผู้ที่จะต้องส่งสินค้าไปสหรัฐอเมริกาอย่างเดียว ในเชิงสถิติ 100% มีการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาเพียง 18% เท่านั้น ซึ่งเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก นอกนั้นกระจายไปยังภูมิภาคอื่นๆ

เมื่อถามว่า จากกรณีดังกล่าวมีผลกระทบกับนักลงทุนที่จะเข้ามาในพื้นที่ EEC หรือไม่ นายจุฬาตอบว่า มีบ้าง ถ้าเป็นนักลงทุนที่เน้นตลาดอเมริกาโดยตรง ดังนั้น นักลงทุนกลุ่มนี้ที่เดิมอาจจะตั้งใจมาตั้งฐานการผลิตใน EEC ก็คงจะชะลอออกไปก่อน เพื่อดูว่าประเทศไทยจะสามารถเจรจาเพื่อปรับลดอัตราภาษีดังกล่าวลงมาได้มากแค่ไหน เพราะอย่าลืมว่ามีประเทศเพื่อนบ้านเราที่ได้อัตราภาษีที่ต่ำกว่า การตัดสินใจในการลงทุนก็คงหาประเทศที่ได้เปรียบมากกว่าด้วย

ส่วนแผนงานหลังจากนี้ EEC ต้องมีอะไรจูงใจนักลงทุนมากขึ้นหรือไม่ นายจุฬากล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ตอนนี้ต้องประเมินผลกระทบก่อน เพราะในที่สุดแล้วยังต้องเจรจากันอยู่ และสินค้าบางประเภทอาจจะได้ประโยชน์จากการเจรจาก็ได้ เพราะสินค้าส่วนใหญ่ที่ไทยส่งไป ส่วนมากจะเป็นสินค้าประเภทที่เกี่ยวข้องกับอิเล้กทรอนิคส์ ซึ่งโดยธรรมชาติจะส่งไปประกอบที่ประเทศอื่น ก่อนจะไปถึงสหรัฐฯ

ขณะที่การปรับแผนอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ทั้งหมด 12 อุตสาหกรรม เพื่อรองรับผลกระทบจากมาตรการภาษีนั้น นายจุฬามองว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น อย่างที่บอกว่า อุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ไม่ได้ไปแค่สหรัฐฯ แต่ยังมีไปในประเทศอื่นๆทั่วโลก เพียงแต่ผู้ประกอบการในพื้นที่จะต้องปรับสัดส่วนเป้าหมายในการส่งออกมากขึ้น เพราะอย่าลืมว่าไทยเองก็มีความร่วมมือ FTA (เขตการค้าเสรี : Free Trade Area) กับประเทศอื่นได้อยู่ นักลงทุนก็อาจจะใช้สิทธิ์ตรงนี้ได้ ก็ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าและบริการ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้ามองแบบแง่ร้าย ประเทศเราไม่สามารถเจรจาให้อัตราภาษีต่ำกว่า 36% ได้ จะกระทบกับ EEC มากแค่ไหน นายจุฬาตอบว่า กระทบบ้าง แต่มากน้อยแค่ไหนยังประเมินไม่ได้ แต่จริงๆแล้วมิติที่ดูแลมันไม่ได้มีสหรัฐฯที่เดียว อีกอย่างคือ การลงทุนภาคบริการซึ่งไม่ได้รับผลกระทบอะไร

เมื่อถามอีกว่า ก่อนหน้านี้ EEC เคยโปรโมตว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนรวม 200,000 ล้านบาท ตอนนี้เป็นอย่างไร นายจุฬาตอบว่า ใน 200,000 ล้านบาท สัดส่วนโดยรวมเป็นภาคการผลิต และจะมีผลกระทบแน่นอน เพราะส่วนมากเป็นการก่อสร้างโรงงานต่างๆ แล้วนำมาใช้ผลิตสินค้าส่งออกไปประเทศในโซนยุโรป ญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งไปแปรรูปที่ประเทศอื่นอีกที เพราะฉะนั้น จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงทีเดียว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเดินทางไปสหรัฐฯ ได้มีการพูดคุยให้ EEC จัดแพ็คเกจลงทุนใหม่ๆให้สหรัฐฯบ้างหรือไม่ นายจุฬากล่าวว่า ไม่มี ในที่สุดแล้วภาพใหญ่จะมองสินค้าโดยรวมที่จะมี จริงๆก็น่าจะมองที่การนำเข้าส่งออกมากกว่า และประเด็นสำคัญคือ การรักษาเสถียรภาพการเกินดุลการค้ามากกว่า