
AP ตีข่าวกัมพูชา-จีนเซ็นสัญญาสร้างคลอง 4 หมื่นล้านเชื่อมแม่น้ำโขง-อ่าวไทย เผย บ.จีนติดแบล็กลิสต์สหรัฐฯ มีเอี่ยวด้วย ขณะนักวิจารณ์หวั่นโครงการกระทบสิ่งแวดล้อมแม่น้ำโขง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับกรณีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เดินทางเยือนประเทศต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน โดยสำนักข่าวเอพีรายงานข่าวว่ากัมพูชาและจีนได้มีการเซ็นสัญญามูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (40,019,996,640 บาท) เพื่อจัดหาเงินทุนให้กับโครงการคลองที่เชื่อมโยงแม่น้ำโขงกับท่าเรือในอ่าวไทย
ข้อตกลงคลองฟูนันเตโชมีการเซ็นกันวันที่ 17 เม.ย.ในระหว่างการเยือนของประธานาธิบดีสีที่เดินทางไปยังเวียดนามและมาเลเซียก่อนหน้านี้ โดยการก่อสร้างคลองนั้นมีความยาว 151.6 กิโลเมตร เริ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้ว แต่ถูกระงับไม่นานหลังจากพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 ด้วยเหตุผลที่ไม่ชัดเจน ส่วน พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวในขณะนั้นว่าคลองจะถูกสร้างขึ้น "ไม่ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเท่าใด" โดยเน้นย้ำว่าโครงการนี้ส่งเสริม "ศักดิ์ศรีของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดน และการพัฒนาของกัมพูชา"
สำหรับโครงการนี้ทางกัมพูชาได้เซ็นสัญญากับบริษัท Funan Techo Coastal-Inland Waterways ภายใต้หลักการบริการการก่อสร้าง-ดําเนินการ-ถ่ายโอน ซึ่งในส่วนของการลงทุนคลองจะมีนักลงทุนกัมพูชาอยู่ที่สัดส่วน 51% และนักลงทุนจีน 49%
อย่างไรก็ตามมีข้อครหาว่ารัฐวิสาหกิจจีนชื่อว่า China Communications Construction Company ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท China Road and Bridge Corporation ซึ่งจะทำเนินการก่อสร้างคลองเชื่อมจากแม่น้ำบาสัก กับท่าเรือในจังหวัดแกบนั้นมีประเด็นความไม่โปร่งใสทางการเงินและรัฐวิสาหกิจแห่งนี้ยังถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐอเมริกาในฐานะที่มีส่วนในการช่วยกองทัพจีนสร้างและแปรสภาพเกาะเทียมในภูมิภาคทะเลจีนใต้ให้เป็นฐานทัพทางทหาร
นอกจากนี้มีผู้วิจารณ์ถึงข้อกังวลที่ว่าการสร้างคลองนั้นอาจส่งผลกับช่วงเวลาที่จะเกิดน้ำท่วมตามธรรมชาติของแม่น้ำโขง และส่งผลต่อความแห้งแล้ง การลดลงของตะกอนในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงที่ค้ำจุนผู้คนนับล้านและมีส่วนสำคัญสำหรับเวียดนามในการเป็นผู้ส่งออกข้าวระดับโลก
อย่างไรก็ตาม การประกาศการลงนามในสัญญามีถ้อยคำระบุว่ามีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวดซึ่งดําเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ 48 คน ที่ยืนยันมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
ในช่วงของการลงนามมีการระบุด้วยว่ารัฐบาลกัมพูชาได้พยายามดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อลดการตั้งถิ่นฐานใหม่ ด้วยการกำหนดเส้นทางน้ำเพื่อเลี่ยงชุมชนหนาแน่นและพื้นที่ประวัติศาสตร์ รวมถึงได้มีการชดเชย และให้คำปรึกษาอย่างมีความรับผิดชอบ ที่กำลังดำเนินการอยู่

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา