แพร่ประกาศปปง.ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนทรัพย์สิน คดี พล.อ.สมโภชน์ เงินเจริญ อดีตที่ปรึกษาแม่ทัพภาค 4 กับพวก หลอกมีงบฯโครงการจัดซื้อหลอดไฟแอลอีดี เครื่องออกกำลังกาย เครื่องเล่น ให้ รร.กว่าร้อยแห่งภาคอีสาน เรียกเก็บเงิน เสียหายกว่า 10 บริษัท ปธ.คณะกก.ธุรกรรมสั่งยึดอายัดทรัพย์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานราย พลเอก สมโภชน์ เงินเจริญ กับพวก หลังประธานกรรมการธุรกรรมได้มีคำสั่งที่ ย.16/2568 ลงวันที่ 20 มกราคม 2568 ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ กรณีร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายว่ามีงบประมาณของทางราชการเพื่อจัดซื้อจัดจ้าง หลอดไฟแอลอีดี (LED) เครื่องออกกำลังกาย เครื่องเล่นสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง ตลอดจนครุภัณฑ์อื่นๆ ให้กับโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษาหลายร้อยโรงเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จนทำให้บริษัทผู้เสียหายกว่า 10 บริษัท หลงเชื่อเข้าร่วมโครงการและจ่ายเงินเข้าจองงาน ค่าลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ค่าติดตั้งอุปกรณ์ ตลอดจนค่าดำเนินการอื่นๆ ให้กับกลุ่มผู้ต้องหา แต่กลับไม่มีโครงการ ไม่มีงบประมาณ และไม่ได้รับเงินจากโครงการตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
คำสั่งมีรายละเอียดว่า
ด้วยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ประธานกรรมการธุรกรรมได้มีคำสั่งที่ ย.16/2568 ลงวันที่ 20 มกราคม 2568 ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมได้มติในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ราย พลเอกสมโภชน์ เงินเจริญ กับพวก กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม 2561 ได้มีผู้เสียหายหลายคนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 3 กองบังคับการกองปราบ ให้ดำเนินคดีกับ พลเอกสมโภชน์ เงินเจริญ กับพวก ซึ่งได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายว่า มีงบประมาณของทางราชการเพื่อจัดซื้อจัดจ้าง หลอดไฟแอลอีดี (LED) เครื่องออกกำลังกาย เครื่องเล่นสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง ตลอดจนครุภัณฑ์อื่นๆ ให้กับโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษาหลายร้อยโรงเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จนทำให้บริษัทผู้เสียหายซึ่งมีจำนวนเกินกว่า 10 บริษัท หลงเชื่อเข้าร่วมโครงการและจ่ายเงินเข้าจองงาน ค่าลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ค่าติดตั้งอุปกรณ์ ตลอดจนค่าดำเนินการอื่นๆ ให้กับกลุ่มผู้ต้องหา แต่กลับไม่มีโครงการ ไม่มีงบประมาณของทางราชการ และไม่ได้รับเงินจากโครงการ ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด อันเป็นการหลอกลวงทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย มีลักษณะการกระทำเป็นขบวนการมาตั้งแต่มี พ.ศ.2560 ทำให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 49/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565 และข้อ 3 แห่งกฎกระทรวงการคืนหรือการชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน พ.ศ. 2567 จึงขอให้บุคคลผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าวและไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น ยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ รายละเอียดการยื่นคำร้องปรากฏตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้ ดูประกาศในลิงก์ https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/58901.pdf
เคยถูกศาลสั่งจำคุก คนละ 2 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2565 ศาลอาญามีคำพิพากษา พล.อ.สมโภชน์ หรือ เสธ.ไบ๋ เงินเจริญ อดีตที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 4 และอดีตผู้ช่วยหัวหน้าเสนาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพวกรวม 3 คน จำคุกคนละ 2 ปี และให้ชดใช้เงินให้ผู้เสียหาย รวม 40 ล้านบาท ในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนในการติดตั้งหลอดไฟแอลอีดี - แผงโซล่าเซลล์ ให้โรงเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ้างอิงข่าวhttps://www.thaipbs.or.th/news/content/312960