
ปปง.ยึดทรัพย์ลอต 2 หญิงสาวชาวจีน ‘เจียน หยวน’ –‘สุรชัย จันทร์ทอง’ กับพวก คดีฉ้อโกงอ้างให้บริการสินเชื่อออนไลน์ -ฟอกเงิน 9 รายการ 78.7 ล. ก่อนหน้าโดน 59 รายการ 27.1 ล. รวม 2 ครั้ง 105.8 ล. คอนโดฯหรู 3 ห้องกว่า 102 ล. เปิดบัญชีโอนต่อเป็นทอดๆบัญชีม้ากว่า 4 แถว
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย. 241 /2567 วันที่ 16 ธ.ค.2567 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) รายนางสาวเจียน หยวน (MISS, JIAN YUAN) กับพวก จำนวน 9 รายการ มูลค่า 78,762,216.13 บาท ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดฐานฟอกเงิน พฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายโดยประกาศผ่านเว็บไซต์ google อ้างว่าเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเงินกู้ออนไลน์ซึ่งเป็นแหล่งเงินกู้พร้อมช่องทางติดต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ผู้เสียหายที่หลงเชื่อจึงติดต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์และโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่มิจฉาชีพหลอกลวง และเมื่อกลุ่มมิจฉาชีพได้รับโอนเงินแล้วจะโอนเงินต่อไปยังบัญชีเงินฝากของบุคคลอื่นอีกเป็นทอด ๆ ในลักษณะของการใช้บัญชีม้า เพื่อยักย้าย ถ่ายโอน ปกปิด อำพราง แหล่งที่มาของเงินหรือนำไปซื้อทรัพย์สินอย่างอื่นที่มีราคาแพง
ทรัพย์สินที่ยึดและอายัดในครั้งนี้ ได้แก่ ห้องชุด 2 รายการ มูลค่า 78,631,216.95 บาท และเงินในบัญชีเงินฝาก 7 รายการใบชื่อบุคคลต่างๆ รวม 128,999.18 บาท
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการธุรกรรมได้มีคำสั่งที่ ย. 168/2567 ลงวันที่ 18 กันยายน 2567 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายนางสาวเจียน หยวน (MISS. JIAN YUAN) กับพวก จำนวน 59 รายการ พร้อมดอกผลมีกำหนดไม่เกิน 90 วัน ได้แก่ ยึดทรัพย์สิน 25 รายการ 24,170,216 บาท ในจำนวนนี้เป็นห้องชุด นางสาวเจียน หรือ เจี้ยน หยวน 1 รายการมูลค่า 24,157,216 บาท และอายัดเงินในบัญชีเงินฝาก ในชื่อบุคคลต่างๆ 34 รายการ มูลค่า 2,945,805.34 บาท รวมทั้งสิ้น 27,116,021.34 บาท https://www.amlo.go.th/amlo-intranet/images/CommandHo_2567/168-2567.pdf
รวมยึดและอายัดทรัพย์สิน 2 ครั้ง 68 รายการ มูลค่า 105,878,237.47 บาท (ในจำนวนนี้ห้องชุด 3 ห้อง 102,788,432.95 บาท)
@เปิดคำสั่งยึดอายัดทรัพย์
สำหรับคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย. 241 /2567 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) รายนางสาวเจียน หยวน มีรายละเอียดดังนี้
@ ตร.สั่งฟ้องข้อหาร่วมกันฉ้อโกง 9 คน
ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้รับรายงานจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 ตามหนังสือที่ ตช 0039.65/1067 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 เรื่อง ส่งแบบรายงานตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประสานงานในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2544 ข้อ 4 ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดฐานฟอกเงิน กล่าวคือ
กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 ได้รับคำร้องทุกข์กล่าวโทษจากผู้เสียหายให้ดำเนินคดีกับนายสุรชัย จันทร์ทอง กับพวก ตามคดีอาญาที่ 69/2566 เนื่องจากคดีนี้กลุ่มมิจฉาชีพได้หลอกลวงผู้เสียหายโดยประกาศผ่านเว็บไซต์ google อ้างว่าเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเงินกู้ออนไลน์ซึ่งเป็นแหล่งเงินกู้พร้อมช่องทางติดต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ผู้เสียหายที่หลงเชื่อจึงติดต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์และโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่มิจฉาชีพหลอกลวง และเมื่อกลุ่มมิจฉาชีพได้รับโอนเงินแล้วจะโอนเงินต่อไปยังบัญชีเงินฝากของบุคคลอื่นอีกเป็นทอด ๆ ในลักษณะของการใช้บัญชีม้า เพื่อยักย้าย ถ่ายโอน ปกปิด อำพราง แหล่งที่มาของเงินหรือนำไปซื้อทรัพย์สินอย่างอื่นที่มีราคาแพง และเนื่องจากเป็นคดีความผิดที่ได้กระทำลงในหลายท้องที่เกี่ยวพันกัน กองบัญชาการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจึงมีคำสั่งที่ 143/6566 ลงวันที่ 10 เมษายน 2566 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวทั่วราชอาณาจักร โดยในคดีอาญาที่ 69/2566 พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วมีความเห็นควรสั่งฟ้อง นายสุรชัย จันทร์ทอง กับพวก รวมจำนวน 9 ราย ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล
@พฤติกรรมโอนเงิน ‘บัญชีม้า’เป็นทอดๆ มากกว่า 4 แถว
นอกจากนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้วพบว่าเมื่อกลุ่มคนร้ายได้รับเงินจากกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงแล้ว จะมีการโอนเงินส่งต่อกันไปเป็นทอด ๆ โดยเมื่อผู้เสียหายถูกหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีม้าแถวที่ 1 แล้ว คนร้ายก็จะโอนเงิน ออกจากบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าวต่อไปยังบัญชีม้าแถวที่ 2 จากบัญชีม้าแถวที่ 2 โอนต่อไปยังบัญชีม้าแถวที่ 3 จากบัญชีม้าแถวที่ 3 โอนต่อไปยังบัญชีม้าแถวที่ 4 และบัญชีอื่นที่เกี่ยวข้อง
@โดนข้อหาร่วมกันฟอกเงิน 5 คน
และพบว่ามีการนำเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายไปซื้อทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขออนุมัติหมายจับกลุ่มผู้กระทำความผิดในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน โดยในคดีอาญาที่ 147/2566 พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา จำนวน 5 ราย โดยแบ่งเป็น (1) นายจำเนียร สุขยิ่ง ผู้ต้องหาที่ 1 (2) นางสาวชฎาพร โกฎวิเชียร ผู้ต้องหาที่ 2 (3) นายสมประสงค์ เกิดแก่น ผู้ต้องหาที่ 3 และ (4) นายซู ยี่ซุน (MR. YIXUN XU) สัญชาติจีน ผู้ต้องหาที่ 4 ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน (สำหรับผู้ต้องหาที่ 1 ถึงผู้ต้องหาที่ 4 ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน แยกต่างหากแล้วเป็นสำนวนคดีอาญาที่ 69/2566 โดยปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล)
สำหรับผู้ต้องหาที่ 5 คือ นางสาวเจียน หยวน (MISS. JIAN YUAN) สัญชาติจีน พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้วมีความเห็นควรสั่งฟ้องในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน โดยปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล
@พบผู้เสียหายเพิ่มอีกรายโดน 137,460 บาท
นอกจากนี้ยังปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 มีผู้เสียหายจำนวน 1 ราย ได้แจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านช่องทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์มายังสำนักงาน ปปง. กรณีถูกบุคคลหลอกลวงให้โอนเงินโดยชักชวนให้ลงทุนและเมื่อโอนเงินแล้วไม่ได้รับเงินคืน รวมความเสียหายจำนวน 137,460 บาท โดยบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้หลอกลวงได้ให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไปเพื่อชักชวนให้ร่วมลงทุนมีบัญชีเงินฝากธนาคารของนายจำเนียร สุขยิ่ง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ และจากข้อมูลการรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยพบว่าธนาคารได้รายงานการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน โดยพบว่ามีสถานีตำรวจในพื้นที่ต่าง ๆ มีหนังสือถึงธนาคารให้ดำเนินการอายัดบัญชีเงินฝากธนาคารของนายสุรชัย จันทร์ทอง กับพวกเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่ามีผู้เสียหายอีกจำนวนหลายรายที่ถูกหลอกลวงในลักษณะเดียวกัน อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) และความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านางสาวเจียน หยวน (MISS. JIAN YUAN) กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว ต่อมาคณะกรรมการธุรกรรมได้มีคำสั่งที่ ย. 168/2567 ลงวันที่ 18 กันยายน 2567 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายนางสาวเจียน หยวน (MISS. JIAN YUAN) กับพวก จำนวน 59 รายการ พร้อมดอกผลมีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นั้น
@ตรวจสอบพบทรัพย์เพิ่ม 9 รายการ 2 ห้องชุด 7 บัญชีเงินฝาก
จากการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคล รวมทั้งผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงินในคดีดังกล่าว พบข้อมูลเพิ่มเติมว่านางสาวเจียน หยวน (MISS, JIAN YUAN) กับพวก เป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือผู้มีสิทธิครอบครองในทรัพย์สินเพิ่มเติมอีกจำนวน 9 รายการ ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ประเภทห้องชุด และสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้ว ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และเนื่องจากทรัพย์สินดังกล่าวประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ประเภทห้องชุด อันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียน ในการเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครอง โดยผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครอง อาจดำเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครองในทางทะเบียนได้ และสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร อันเป็นทรัพย์สินที่สามารถโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นได้โดยง่าย หากมิได้มีการออกคำสั่งให้ยึดและอายัด ทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสีย และหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นางสาวเจียน หยวน (MISS. JIAN YUAN) กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และอาจมีการโอน จําหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว
@ สั่งอายัดชั่วคราว 90 วัน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 (3) และมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 15/2567 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรมว่าด้วยการรับเรื่อง การตรวจสอบ การพิจารณา ดำเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25 คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) จำนวน 9 รายการ พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2568 โดยมีรายการทรัพย์สินที่ยึดและอายัดปรากฏตามบัญชีทรัพย์สินแนบท้ายคำสั่งนี้
ทั้งนี้ ให้รวมถึงเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการจำหน่าย จ่าย โอนด้วยประการใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวหรือสิทธิเรียกร้องหรือผลประโยชน์หรือดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวด้วย
ในกรณีผู้ซึ่งถูกยึดและอายัดทรัพย์สินตามคำสั่งนี้หรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินดังกล่าว ประสงค์จะขอให้มีการเพิกถอนคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวนั้น ให้ยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพร้อมด้วยหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่แสดงว่าเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัดดังกล่าวนั้นมิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเป็นหนังสือ
อนึ่ง การยักย้าย ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานยึดหรืออายัดไว้หรือที่ตนรู้หรือควรรู้ว่าจะตกเป็นของแผ่นดิน อาจมีความผิดทางอาญา และต้องระวางโทษตามนัยมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
สั่ง ณ วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2567




Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา