‘ทักษิณ’ แจงภาพงานเลี้ยงนครปฐม แค่กินข้าว ปัดพบบ้านใหญ่

‘ทักษิณ’ ชี้แจงภาพพบปะงานเลี้ยงที่นครปฐม แค่กินข้าว ไม่มีการพบบ้านใหญ่ ส่วนการส่งผู้สมัครนายกอบจ.ให้ไปถามพรรคเพื่อไทย แต่ยอมรับว่าจ.ปราจีนฯจะส่งเมีย ส.จ.โต้งจริง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ไม่ห่วงการเมืองท้องถิ่นรุนแรง กระทบนายกฯ

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 13 ธันวาคม 2567 จากกรณีที่สำนักข่าวนำเสนอภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและบิดาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน พบกับอดีตนักการเมืองใหญ่รายหนึ่งของจังหวัดนครปฐมบนชั้นดาดฟ้าโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม โดยมีนายตำรวจระดับสูงของจังหวัด นายตำรวจระดับสูงของสำนักงานตำรวจภูธรภาค และนักธุรกิจเจ้าของเจ้าของสถานที่ปรากฎอยู่ในภาพดังกล่าวด้วยนั้น

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า การเจอกันระหว่างนายทักษิณ กับ อดีตนักการเมืองใหญ่ของจังหวัดเกิดขึ้นอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งแรกที่กรุงเทพฯราวเดือน พ.ย.2567 และครั้งที่สองเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าเป็นการพบกันเพื่อจัดวางตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งการเมืองระดับท้องถิ่นโดยเฉพาะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่จะมีขึ้นในต้นปี 2568 นี้ และการวางตัวผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

• สะพัด! ภาพ 'ทักษิณ’ พบอดีตนักการเมืองใหญ่นครปฐม นักธุรกิจ-บิ๊กตร.ร่วมวง

@ปัดเจอบ้านใหญ่ แค่ไปกินข้าว

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายทักษิณให้สัมภาษณ์ที่ที่สถานีรถไฟบางบำหรุ โดยยอมรับว่าไปงานเลี้ยง ผู้บริหารของโรงแรมไมด้า ชวนไปกินข้าว มีตำรวจเป็นส่วนใหญ่ เป็นรุ่นน้อง แต่ยังไม่เจอและยังไม่พูดคุยกับบ้านใหญ่ของนครปฐม

@รับส่งตัวภรรยา ส.จ.โต้งลงนายกอบจ.ปราจีนฯ

ส่วนกรณีการส่งผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปราจีนบุรีที่เพิ่งเกิดเหตุยิงนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ ส.จ.โต้ง บุตรบุญธรรมของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ จ.ปราจีนบุรี เป็นเขตอิทธิพล ของนายสุนทร วิลาวัลย์ มานานแล้ว การเมืองมีทั้งฮั้ว ถ้าฮั้วไม่ลงตัวก็ฆ่ากัน เป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ตำรวจก็จัดการได้เร็วมาก ล้อมบ้านและจับกุมได้ทั้งหมด ยอมรับว่าตำรวจจับกุมได้เร็วมาก

ขณะที่การเปิดแชท ส.จ.โต้ง กับคนสนิทของนายทักษิณ นายทักษิณ ระบุว่า ใช่ อยากให้ภรรยา (นางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ ส.จ.จอย) ลงในนามพรรคเพื่อไทย และยืนยันว่าได้มีการคุยกับนายสุนทรแล้ว แต่ถูกเรียกไปอีกครั้งหนึ่ง ก็อาจจะเรียกไปต่อรองกันหรือไม่ก็ไม่รู้ ส่วนตัวไม่รู้ รอผลการสอบสวนก่อน

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งลงชิงเก้าอี้ นายก อบจ. ปราจีนบุรี หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนนั้นได้มาคุยกันว่า สส.เพื่อไทยในเขตปราจีนบุรีจะมีการสนับสนุนภรรยาของสจ.โต้ง ส่วนที่มีการถอนตัวแล้ว เพราะคงไม่กล้าลง เพราะยังมีอิทธิพลที่ยังไม่จบ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ตำรวจต้องมีการกวาดล้างอิทธิพลปราจีนบุรีให้เกลี้ยง

ส่วนพรรคเพื่อไทยจะมีการส่งผู้สมัครปราจีนบุรีหรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบ หรืออาจจะไม่ส่งก็ได้

@โยนถามพรรคดีกว่า ส่งใคร

เมื่อถามว่าจังหวัดเชียงใหม่พรรคเพื่อไทยจะส่งนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือนายกฯ ก๊อง ลงหรือไม่ หรือเป็นเพียงพันธมิตรกัน นายทักษิณ ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ทราบต้องถามพรรคเพื่อไทย รวมถึงสนามอื่น ๆ ด้วย ต้องถามพรรค ก่อนจะหันมาบอกผู้สื่อข่าวว่า หากพรรคแกนนำรัฐบาลกลัวอิทธิพลก็แย่แล้ว ไม่ต้องไปกลัวหรอก เราต้องปราบอิทธิพลให้เกลี้ยง พร้อมย้ำว่าดูปราจีนบุรีสิ เดี๋ยวก็หมด เที่ยวนี้เกลี้ยงแน่ ซึ่งหลายจังหวัดก็เป็นแบบนี้เดี๋ยวตำรวจก็จัดการ เพราะช่วงนี้ตำรวจฟิตไม่ต้องห่วง

เมื่อการเมืองท้องถิ่นมีความรุนแรงขนาดนี้จะมีความกังวลในการเมืองระดับประเทศหรือไม่ กล่องดวงใจเล่นการเมืองอยู่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่กังวล วันนี้ต้องทำหน้าที่เมื่อทำหน้าที่แล้วละทิ้งไม่ได้ ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ขณะตอนที่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ก็พลาดสี่ครั้ง วันนี้เหตุการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ความรุนแรงต่าง ๆ ในระดับประเทศลดลงไปเยอะเหลือน้อยลง

และพรรคเพื่อไทย จะส่ง อบจ.ภาคใต้หรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีฐานเสียงภาคใต้ เพราะการจะลงจะต้องมีฐานเสียง

ส่วนพื้นที่จ.ศรีสะเกษ ต้องเจอกับบ้านใหญ่ ไตรสรณกุล บิดาของ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กลัวหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่กลัว เป็นคนละฟากกัน ส่วนการทำพื้นที่ยากหรือไม่นั้น ไม่มีอะไรยากอยู่ที่ความพยายาม

เมื่อถามว่า สส.อีสานในอนาคตจะกลับมาเหมือนเดิมที่ได้ 125 ที่นั่งหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เราต้องให้เกินร้อย

ส่วนเมื่อถามว่า 20 สส.ก๊วนธรรมนัส จะมาซบพรรคเพื่อไทยหรือ ไม่ นายทักษิณ บอกว่า อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว

ทั้งนั้ นายทักษิณ ระบุว่าจะลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ ช่วงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ ส่วนนายกรัฐมนตรี จะไปด้วยหรือไม่ ไม่ทราบ และจะลงพิ้นที่ จ.ศรีสะเกษ เชียงราย ด้วย ส่วนช่วงปีใหม่จะอยู่กรุงเทพฯ เพราะไม่อยากรบกวนใคร ส่วนจะไปดู "ลิซ่า" หรือไม่ ตนไม่รู้เหมือนกัน ต้องแล้วแต่ลูกว่าเขาจะสั่งให้ไปไหม