ตร.ฮ่องกงเผยตัวเลขนักศึกษาถูกหลอกมาไทย ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ เฉลี่ย 24 รายต่อเดือน ก่อนพุ่งขึ้นไปถึง 91 รายช่วงเดือน ต.ค. เผยมิจฉาชีพใช้วิธีใหม่ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่หลอกมายังประเทศไทย ก่อนโทรหาครอบครัวเหยื่อเรียกค่าไถ่ พบมีรายหนึ่งเรียกค่าไถ่สูงสุดถึง 24 ล.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับขบวนการฉ้อโกงที่เชื่อมโยงถึงประเทศไทยว่าเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงได้รายงานว่าพบการเพิ่มขึ้นของปฏิบัติการฉ้อโกงซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพจะหลอกลวงอ้างตัวเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ (ไม่ได้ระบุว่าหน่วยงานใด) โดยพุ่งเป้าไปที่นักศึกษามหาวิทยาลัย โดยไม่นานมานี้พบว่ามีคดีทีไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นคดีที่เหยื่อถูกมิจฉาชีพล่อลวงมาประเทศไทย เพื่ออ้างว่าจะได้เป็นอิสระจากครอบครัวของเธอ แล้วในเวลาต่อมามิจฉาชีพก็โทรมาหลอกลวงครอบครัวของเหยื่อ โดยอ้างอย่างเป็นเท็จว่าลูกสาวตกอยู่ในอันตราย เนื่องจากถูกลักพาตัวและต้องการเงิน 10 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (43,724,956 บาท) แต่กรณีนี้ผู้ปกครองของเหยื่อกลับไม่หลงกล และแจ้งเจ้าหน้าที่ ด้วยความร่วมมือของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งในไทยและตำรวจสากล ทำให้ทราบได้ว่าเหยื่ออยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และในเวลาต่อมาเหยื่อรายนี้ก็กลับฮ่องกงได้อย่างปลอดภัย
ทางด้านของนางธีโอโดรา ลี ไวซี (Theodora Lee Wai-see) ผู้กํากับศูนย์ประสานงานต่อต้านการหลอกลวงของสํานักอาชญากรรมพาณิชย์ สังกัดหน่วยงานตำรวจฮ่องกง เปิดเผยว่าขบวนการหลอกลวงที่พุ่งเป้าไปยังนักศึกษามหาวิทยาลัย โดยอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่นั้น กรณีดังกล่าวพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยในช่วงเดือน ม.ค.-ต.ค. ปีนี้ ฮ่องกงพบกรณีการหลอกลวง (รวมถึงคดีหลอกลวงอื่นๆ) รวมกัน 36,405 คดี ซึ่งเพิ่มขึ้นมากถึง 2,482 คดี ถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า กรณีเหล่านี้ทำให้เกิดความสูญเสียมากถึง 7 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (30,617,895,000 บาท) โดยถึงแม้ตัวเลขความเสียหายนี้จะลดลง 5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตามมีกรณีการหลอกลวงที่กลุ่มมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทางการเกิดขึ้นจำนวน 874 คดี คิดเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 93 คดี ทำให้เกิดความเสียหายมากถึง 1.42 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (6,210,318,880 บาท)
เหยื่อของขบวนการหลอกลวง พบว่า 30 เปอร์เซ็นต์นั้นเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เป็นนักศึกษาจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่กำลังศึกษาอยู่ในฮ่องกง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่เดือนก.ค. ถึง ก.ย.ปีนี้ มีนักศึกษามหาวิทยาลัยเฉลี่ย 24 รายตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงในแต่ละเดือน ทว่าในเดือน ต.ค.ตัวเลขเหยื่อกลับพุ่งขึ้นไปถึง 91 รายหรือก็คือเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า โดยเหยื่อจำนวน 91 รายนั้นพบว่ามีตั้งแต่ระดับปริญญาตรีถึงนักศึกษาปริญญาเอก อายุระหว่าง 18 ถึง 34 ปี โดยจำนวนนี้ 73 รายพบว่ามาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งนี้หนึ่งในคดีหลอกลวงที่มีความเสียหายสูงสุดที่เกิดขึ้นกับนักศึกษาในปีนี้นั้นอยู่ที่ประมาณ 5.7 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (24,941,358 บาท)
นางลีกล่าวเพิ่มเติมอีกว่ากลุ่มมิจฉาชีพ ก่อนหน้านี้มักใช้กลยุทธ์เช่น การติดต่อเหยื่อทางโทรศัพท์ กล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบัตรโทรศัพท์หรือบัญชีธนาคารในกิจกรรมฉ้อโกงหรือการฟอกเงิน มีการแสดงหมายค้นหรือหมายจับ และเรียกร้องเงินมัดจําเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์
อย่างไรก็ตาม คดีล่าสุดที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ใหม่ๆมากขึ้นเรื่อยๆ โดยตอนนี้กลุ่มมิจฉาชีพขอให้นักเรียนถ่ายภาพหรือวิดีโอที่มีลักษณะอนาจาร ซ่อนตัวในพื้นที่ห่างไกล และแม้กระทั่งบีบบังคับให้เหยื่อออกจากฮ่องกงมาประเทศไทย