ทนายความ ‘บอสพอล’ ยืนยัน ‘ดิไอคอน’ ทำธุรกิจถูกต้อง ผู้ต้องหาทั้งหมดบริสุทธิ์ ย้ำลูกความไม่เคยจ่ายสินบนให้หน่วยงานใด ขณะ ปคบ.คุมตัว ‘บอสพอล’ ฝากขังผลัดแรก หลังสอบปากคำเสร็จตั้งแต่ 2 ทุ่ม ด้าน รอง ผบช.ก.เผยมีผู้เสียหายทยอยให้ปากคำเรื่อยๆ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และ หลอกลวง หรือ ทุจริต โดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ” ได้เดินทางมาเข้าเยี่ยม นายวรัตน์พล ลูกความ ที่ถูกคุมตัวอยู่ในห้องขัง ก่อนพนักงานสอบสวนจะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญา
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า จะยังไม่ยื่นขอประกันตัวเนื่องจากเมื่อวานนี้เห็นคำสั่งศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาคนอื่นๆ ซึ่งศาลให้เหตุผลว่า คดีดังกล่าวกลุ่มผู้ต้องหามีลักษณะกระทำกันเป็นขบวนการ หากอนุญาตให้ประกันตัวแล้ว เกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน สำหรับสาเหตุที่ต้องมีการควบคุมตัว นายวรัตน์พล ไปฝากขังในวันนี้ เนื่องจากการสอบปากคำยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจำกัด เปิดทำการถูกต้อง และผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเป็นผู้บริสุทธิ์
ทนายความกล่าวต่อว่า โดยเมื่อวานที่ผ่านมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ได้เข้ามาสอบปากคำเกี่ยวกับกรณีปรากฏคลิปเสียงในสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งนายวรรัตน์พล ให้ข้อมูลว่าคลิปเสียงที่มีการเผยแพร่ดังกล่าวนั้นเป็นเสียงของตัวเองจริง แต่ยืนยันว่าไม่เคยจ่ายสินบนให้หน่วยงานใด ตามที่มีการถูกกล่าวอ้าง ซึ่งในส่วนที่มีการพูดถึงเทวดานั้นยืนยันว่าเทวดาที่หมายถึงคือเทวดาจริงๆ ไม่ใช่เทวดาบนโลกมนุษย์
ส่วนกรณีที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยข้อมูลว่า เคยมีคนใกล้ชิดของผู้บริหารระดับสูงของ ดิไอคอนกรุ๊ป แปลงทรัพย์สินที่มีเป็นสกุลเงินดิจิทัลเพื่อจ่ายสินบนนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากผลประกอบการของบริษัท มี 10,000 ล้านบาท หากจะนำไปจ่ายเป็นเงินสินบนทั้งหมดคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เบื้องต้นตรวจสอบแล้วพบว่าบุคคลที่นายเอกภพอ้างอิงถึงนั้น ไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปแต่อย่างใด โดยตัวเองขอฝากถึงนายเอกภพว่าหากมีการนำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงอาจถูกแจ้งข้อหา ให้การเท็จได้ และหากจะมีการยื่นขอประกันตัวนายวรัตน์พล หลังจากนี้อาจจะต้องมีการเพิ่มวงเงินจาก 2 ล้านบาท อย่างแน่นอนแต่ส่วนนี้ขอไม่ตอบรายละเอียดว่าจะเป็นหลักทรัพย์เท่าไหร่
ต่อเวลา 09.15 น. วันเดียวกัน ทางพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ได้ทำการเบิกตัวนายวรัตน์พล ออกจากห้องคุมขังอาคารศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. เพื่อนำตัวส่งฝากขังผัดแรกยังศาลอาญา โดยระหว่างที่นำตัว นายวรัตน์พล เดินไปขึ้นรถเผยให้เห็นอาการของ นายวรัตน์พล ที่อยู่ในสภาพอิดโรยจากความตรึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวว่า เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้ขอให้ปากคำเพิ่มเติมโดยเมื่อคืนสอบปากคำเสร็จประมาณ 20.00 น. เมื่อสอบเสร็จเรียบร้อยก็ควบคุมตัวไว้ก่อนจะนำไปฝากขังในช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้ผู้ต้องหาก็จะอยู่ในอำนาจศาล และสำหรับประเด็นอื่นๆ ที่ประชาชนยังเกิดข้อสงสัย ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน โดยจะต้องทำงานอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด นอกจากนี้ยังมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การสอบสวนจะทำตามใจหรือรีบร้อนเกินไปไม่ได้เพราะทุกอย่างอยู่ที่พยานหลักฐาน
ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียหายหรือผู้ต้องหา เบื้องต้นมีการคัดค้านการประกันตัวเหมือนผู้ต้องหารายอื่น ส่วนประเด็นอื่นๆก็ยังไม่ขอเปิดเผย แต่ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง
ส่วนคำให้การเพิ่มเติมของบอสพอลมีประโยชน์ต่อรูปคดีมากขึ้นหรือไม่นั้น พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจไม่ได้หวังพึ่งคำให้การจากผู้ต้องหาอย่างเดียว แต่จะต้องพึ่งพยานเอกสารและคำให้การของผู้เสียหายประกอบสำนวน ซึ่งหลังจากนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องสืบสวนเพิ่มเติม เพราะยังมีผู้เสียหายทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งนี้ฝากประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายสามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ทุกพื้นที่ ซึ่งเมื่อวานนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ยังสั่งการให้ทุกพื้นที่ตั้งศูนย์รับแจ้งความขึ้นมาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยที่ บก.ปคบ. มีการจัดพนักงานสอบสวนร่วมสอบปากคำกว่า 100 นาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ส่วนการขยายผลไปถึงนักการเมืองหรือข้าราชการสีกากีอื่นที่มีความเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ตนไม่ขอลงรายละเอียด อยู่ในขั้นตอนดำเนินการทั้งหมดที่เป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ.
รายงานข่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาภายหลังจากเสร็จสิ้นการสอบสวน เจ้าหน้าที่นำตัว“บอสพอล” มาควบคุมตัวไว้ที่ห้องขังของตึกศูนย์รับแจ้งความ บช.ก.โดยมีรายงานว่าตลอดทั้งคืนบอสพอลยังมีอาการเครียด ถึงกับต้องลุกขึ้นมานั่งสมาธิภายในห้องขัง จนกระทั่งรุ่งเช้าเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมอาหารเช้าเป็นข้าวกะเพรา-ไข่ดาวมาให้ก่อนถูกนำตัวส่งไปฝากขังต่อไป