สืบ ป.ป.ช.-ประสานตำรวจกองกำกับการสืบสวนปราบปราม ตม. 2 จับกุมตัว 'ผ่องฉวี สารเนตร อดีตครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านอากาศ สกลนคร ทุจริตเงินอุดหนุนอาหารกลางวันเด็ก 871,280 บาท หลังเดินทางเข้าประเทศ ถูกศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 4 ออกหมายจับ ส่งตัวฟ้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกม.ต่อไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2567 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ข่าวการจับกุมตัวนางผ่องฉวี สารเนตร อดีตครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านอากาศ ตำบลอากาศ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 คดีทุจริตเงินค่าอาหารกลางวันเด็กประถม จำนวน 871,280 บาท
สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุว่า ภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 ได้มอบหมายให้งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ทำการจับกุมนางผ่องฉวี สารเนตร ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 48/2567 ลงวันที่ 10 กันยายน 2567 ซึ่งต้องหาว่าเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสียและฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91
โดยนางผ่องฉวี สารเนตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านอากาศ ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ถอนเงินโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนบ้านอากาศ ตำบลอากาศ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนครโดยระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2558 ถึงวันที่ 16 มกราคม 2560 นางผ่องฉวี สารเนตร ได้จดแจ้งจำนวนเงินลงในใบถอนเงินมากกว่าจำนวนเงินที่จะใช้ดำเนินโครงการอาหารกลางวัน จากบัญชีเงินอุดหนุนอาหารกลางวันเด็กประถม จำนวน 25 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 871,280 บาท แล้วเบียดบังเงินค่าอาหารกลางวันส่วนที่มากกว่าดังกล่าวไปเป็นของตนโดยทุจริต
สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุว่า ทั้งนี้ ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้ทราบว่านางผ่องฉวี สารเนตร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 48/2567 ลงวันที่ 10 กันยายน 2567 จะเดินทาง เข้ามาในราชอาณาจักร จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ดำเนินการร่วมจับกุมตัวผู้ต้องหา โดยจัดเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบตามช่องตรวจ จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. พบนางผ่องฉวี สารเนตร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่
จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับให้นางผ่องฉวีฯ ดูและได้อ่านให้ฟังแล้ว นางผ่องฉวีฯ รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งสิทธิ แจ้งพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิด และแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบดีแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวไปที่ทำบันทึกจับกุมที่กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อบันทึกการจับกุม และจักได้นำตัวส่งอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป
อย่างไรก็ดี ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด