ปปง.ออกประกาศให้ ‘ผู้เสียหาย’ ยื่นคำร้องขอชดใช้คืนคดี จนท.บัญชีสาว สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนศาลาหลวง กับพวกร่วมยักยอก พฤติกรรมรับชำระหนี้จากลูกค้านอกที่ทำการ นำเงินเข้าไม่ครบ ปลอมลายมือชื่อสมาชิกกู้ เสียหาย 12.2 ล้าน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 26 กันยายน 2567 เผยแพร่ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคําร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน ราย นางถนอมศรี จิณะวงศ์ กับพวก ร่วมกันยักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนศาลาหลวง จํากัด จ.ลำปาง เสียหาย 12,202,568.35 บาท โดยขอให้บุคคลผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าวและไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ยื่นคําร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียด และจำนวนความเสียหาย ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน
คำสั่งระบุรายละเอียดดังนี้
ด้วยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 ให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่ วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ ในความผิดเกี่ยวกับการปลอมเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะ เป็นปกติธุระ กล่าวคือ
นางถนอมศรี จิณะวงศ์ กับพวก ผู้ต้องหาที่ 1 ตำแหน่งพนักงานบัญชี นางทองเพียร มุณีแก้ว ผู้ต้องหาที่ 2 ตำแหน่งพนักงานการเงิน และนางเฉลิมศรีหรือนางสาวเฉลิมศรี บุพชาติ ผู้ต้องหาที่ 3 ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนศาลาหลวง จํากัด ผู้ต้องหาทั้งสาม ได้ร่วมกันกระทำความผิดโดยแบ่งหน้าที่กันทำ โดยตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2553 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ต่อเนื่องกัน เมื่อมีสมาชิกสหกรณ์นําเงินมาชําระหนี้หรือนําเงินมาฝาก ณ ที่ทำการ สหกรณ์ ผู้ต้องหาทั้งสามคนจะนําเงินที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว หรือเมื่อผู้ต้องหาทั้งสามคนไปรับชำระหนี้จากสมาชิกนอกที่ทำการสหกรณ์ จะไม่นําเงินส่งเข้าบัญชีสหกรณ์ หรือนําส่งแต่ส่งไม่ครบ ทั้งจำนวนหรือนําส่งครบทั้งจำนวนแต่ได้มีการปลอมลายมือชื่อของสมาชิกสหกรณ์ในใบถอนเงินแล้วทำการถอนเงินออกจากบัญชีของสมาชิกผู้นั้นและยังมีการปลอมสัญญาเงินกู้และใช้สัญญาเงินกู้ปลอมเพื่อให้ได้ไปซึ่งเงินกู้ของสหกรณ์ ลงข้อมูลอันเป็นเท็จในการ์ดกู้เงิน หุ้นเงินรับฝาก และใบเสร็จรับเงินของสหกรณ์ ซึ่งไม่ตรงกับสมุดประจําตัวของสมาชิก รวมทั้งมีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับและระเบียบของสหกรณ์ อันส่งผลให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนศาลาหลวง จํากัด และสมาชิกจำนวนหลายรายได้รับความเสียหาย รวมมูลค่าความเสียหายจำนวน 12,202,568.35 บาท
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 49/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565 และข้อ 3 แห่งกฎกระทรวงการคืนหรือการชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและการชดใช้ ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน พ.ศ. 2567 จึงขอให้บุคคลผู้ได้รับความเสียหายโดยตรง จากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าวและไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น ยื่นคําร้อง พร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย และจำนวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับแต่วันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ รายละเอียดการยื่นคําร้องปรากฏตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้
ดูประกาศในลิงก์ https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/44613.pdf
สำนักข่าวอิศรารายงานว่ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนศาลาหลวง จํากัด ตั้งอยู่ใน ตำบลศาลา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง