ชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกอบจ.ปทุมธานี พา อดีตปลัด อบจ.ปทุมธานี มอบตัว ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ภาค 1 คดีถุงยังชีพ - ศาลปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 4 แสนบาท นัดฟังคำพิพากษา 24 ต.ค.67
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 19 กันยายน 2567 นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี จำเลยที่ 1 ในฐานะนายประกัน ได้นำตัวนายเดชา พวงงาม อดีตปลัดอบจ.ปทุมธานี จำเลยที่ 3 ในคดีทุจริตถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเมื่อปี 54 มามอบตัวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1
ภายหลังถูกออกหมายจับ เพราะไม่มาฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.ย.67 ในคดีหมายเลขดำที่ อท 5/67 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายชาญ สมัยเป็นนายกอบจ.ปทุมธานี กับพวกรวม 7 คน ในข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบรามการทุจริต พ.ศ.2561
ทั้งนี้ ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายเดชา จำเลยที่ 3 ระหว่างพิจารณา โดยตีราคาประกัน 400,000 บาท และแจ้งนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 24 ต.ค. 2567 เวลา ตามเดิม และให้เพิกถอนหมายจับจำเลยที่ 3
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายชณัฐ รานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการลูกปทุมต้นแบบต้านโกง เปิดเผยว่า ได้มอบหลักฐานคลิปวีดีโอ 2 คลิป จากกล้องวีดีโอ 2 ตัว ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบเกี่ยวกับการหาเสียง โดยในคลิปดังกล่าวมีภาพขบวนรถติดเครื่องขยายเสียงผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ. ปทุมธานีรายหนึ่ง ซี่งโฆษกได้มีคำพูดอ้างว่าตัวเอง คือ นักการเมืองมาช่วยหาเสียงด้วยคำถ้อยคำที่ว่า
“ฝากพี่น้องประชาชน ชาวหมู่บ้านจุฑาภัทรที่เคารพรักทุกท่าน ผมอดีต ส.ส… หรือ อดีต ส.ส. …ในนามของพรรค … วันนี้ทนดูไม่ได้ที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกใส่ร้ายป้ายสี ผมขอบอกพี่น้องชาวหมู่บ้านจุฑาภัทรเลยว่า ไม่เป็นความจริงเลยว่านายชาญ พวงเพ็ชร์ ขาดคุณสมบัติ”เป็นต้น
นายชณัฐกล่าวว่า ถ้าเป็นนักการเมืองจริง นักการเมืองจะต้องแจ้งชื่อไว้ที่ กกต.ประจำจังหวัดปทุมธานี จึงจะสามารถเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ โดยได้มอบหลักฐานให้ กกต.จังหวัดปทุมธานี เพื่อตรวจสอบว่าโฆษกในคลิปดังกล่าวที่อ้างตัวว่า เป็นนักการเมืองอยู่พรรคการเมืองใหญ่ตัวจริงหรือไม่ และได้ยื่นขอเป็นผู้ช่วยหาเสียงหรือไม่
นายชณัฐกล่าวว่า ขบวนรถหาเสียงคันดังกล่าวมีลักษณะเดียวกันกับขบวนรถที่ไปเรียกประชาชนมารับซองปริศนา อีกทั้งเวลาก็ใกล้เคียงกันขณะนี้มีคลิปที่ประชาชนและสมาชิกต้านโกงส่งเข้ามาหลายคลิป ทั้งคลิปซื้อเสียง และคลิปที่แจ้งว่าอาจเป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยบางหน่วย วางแผนช่วยเหลือผู้สมัครบางคนกำลังตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อรวบร่วมหลักฐานส่ง กกต.ปทุมธานีต่อไป
ทั้งนี้ กรณีฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 ตาม ม.66 วรรสอง เป็นผู้ช่วยหาเสียงโดยไม่แจ้ง กกต. มาตรา 129 (2) กำหนดบทลงโทษ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ