เผยมติ ป.ป.ช.เสียงเอกฉันท์ตีตกคดี 'สิริมนต์ อู่ทรัพย์' อดีต ส.อบจ.ปทุมธานี ร่ำรวยผิดปกติ พ้นตำแหน่งมีเงินลงทุนบริษัท-โรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง เพิ่มขึ้นมูลค่ากว่า 143 ล้าน หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฎข้อเท็จจริงพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่ากระทำความผิด ไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่ให้แจ้งสรรพากรดำเนินการทางภาษีกรณีมีรายได้อื่นจากการให้เช่าห้องชุด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตีตกคดี นางสาวสิริมนต์ อู่ทรัพย์ อดีตตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ มีเงินลงทุนบริษัทเพิ่มขึ้น 98,000,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เพิ่มขึ้น 45,876,600 บาท
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฎข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นางสาวสิริมนต์ อู่ทรัพย์ ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่ให้แจ้งกรมสรรพากรดำเนินการทางภาษี กรณีมีรายได้อื่นจากการให้เช่าห้องชุด แต่ไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และรายได้ดังกล่าวไม่ได้รับการยกเว้นภาษี
สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุปว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง ความมีอยู่จริง และความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สินของนางสาวสิริมนต์ อู่ทรัพย์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี เปรียบเทียบกับกรณีเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งผลการตรวจสอบรายการทรัพย์สินและหนี้สินถูกต้องและมีอยู่จริงตามที่ผู้ยื่นแสดง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่ง 1 ปี (26 กรกฎาคม 2555 - 25 กรกฎาคม 2556)
มีทรัพย์สินที่เพิ่มขั้นที่มีนัยสำคัญ ได้แก่
1. เงินลงทุนเพิ่มขึ้น = 98,000,000 บาท (เพิ่มหุ้นในบริษัท 3 รายการบริษัท มนต์ทรานสปอร์ต จำกัด จำนวน 75,000,000 บาท และบริษัท วินวิน คอนเทนเนอร์ เดโป จำกัด จำนวน 15,000,000 บาท และบริษัท เว็บบ์ โลจิสติกส์ จำกัด จำนวน 8,000,000 บาท)
2. โรงเรือนฯ เพิ่มขึ้น = 45,876,600 บาท (อาคารชุด 3 หลัง รับให้อาคารชุด 2 ห้อง กู้เงินจากธนาคารกรุงเทพฯ เพื่อซื้ออาคารชุด 1 ห้อง)
2.1 อาคารชุดเอท ทองหล่อ เรสซิเด้นซ์ เลขที่ 88/178 (นายวิกรมฯ (บุคคลอื่นเป็นผู้จ่ายเงิน)
2.2 อาคารชุด วินด์สุขุมวิท 23 ห้อง 136/91 (นางสาวสิริมนต์ฯ ซื้อโดยกู้เงินจากธนาคารกรุงเทพฯ ผ่อนชำระเดือนละ 81,800 บาท) (ข้อมูลรายได้ตาม ภ.ง.ด. ปี 2553 รายได้/ต่อเดือน = 139,367.76 บาท)
2.3 อาคารชุด เอททองหล่อ เรสซิเด้นส์เซส ห้องเลขที่ 88/317 (รับให้จากนางเขมิกาฯ (เพิ่มพร) มารดา) (นำเงินให้กู้ยืม 10 ล้าน และรับให้จากนางเขมิกาฯ มารดา จำนวน 17,276,600 บาท)
ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น เงินลงทุนเพิ่มขึ้น จำนวน 3 รายการ ได้แก่ เงินลงทุนในการถือหุ้นบริษัท มนต์ทรานสปอร์ต จำกัด จำนวน 75,000,000 บาท เงินลงทุนในการถือหุ้นบริษัท วินวิน คอนเทนเนอร์ เดโป จำกัด จำนวน 15,000,000 บาท และเงินลงทุนในการถือหุ้นบริษัท เว็บบ์ โลจิสติกส์ จำกัด จำนวน 8,000,000 บาท ซึ่งไม่สามารถชี้แจงที่มาชัดเจน ของเงินลงทุนในการถือหุ้น 3 บริษัท และรับอาคารชุด ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 2 ห้อง ได้แก่ อาคารชุดเอท ทองหล่อ เรสซิเด้นซ์ เลขที่ 88/178 และอาคารชุด เอททองหล่อ เรสซิเด้นส์เซส ห้องเลขที่ 88/317
จึงปรากฏพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ตามมาตรา 113 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีดังนี้
1. กรณีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น จำนวน 98,000,000 บาท ประกอบด้วยการเพิ่มหุ้นในบริษัท 3 บริษัท
1) บริษัท มนต์ทรานสปอร์ต จำกัด จำนวน 75,000,000 บาท
จากการไต่สวนปรากฏข้อเท็จจริงว่านางสาวสิริมนต์ฯ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทฯ หมายเลขหุ้น 000001-124997 ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2546, หมายเลขหุ้น 500001- 525003 ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2546 และหมายเลขหุ้น 1000001-1100000 ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2548 รวมทั้งสิ้น 250,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 25,000,000 บาท จนถึงวันเข้ารับตําแหน่ง เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2551 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 150,000,000 บาท แบ่งเป็นจํานวนหุ้น 1,500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551 ในการประชุมวิสามัญครั้งที่ 1/2551 นางสาวสิริมนต์ฯ ได้โอนหุ้นทั้งหมดให้นางน้ำฝน หงษ์ทอง ซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท เพชรบุรีล้ำยุค จํากัด จำนวน 250,000 หุ้น เป็นจํานวนเงิน 25,000,000 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2551 นางน้ำฝน หงส์ทอง ได้โอนหุ้นทั้งหมดให้นางสาวสิริมนต์ฯ จำนวน 250,000 หุ้น เป็นจํานวนเงิน 25,000,000 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2553 ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553 มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น โดยมีผู้ถือหุ้นจำนวน 4 คน ซึ่งนางสาวสิริมนต์ฯ มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น 200,000 หุ้น เป็นจํานวนเงิน 20,000,000 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2555 ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 3/2555 มีการเพิ่มทุน จาก 1,500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เป็น 2,500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ซึ่งนางสาวสิริมนต์ฯ มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น 300,000 หุ้น เป็นจํานวนเงิน 30,000,000 บาท นางสาวสิริมนต์ฯ ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาถึงที่มาของการเพิ่มทุนในบริษัท มนต์ทรานสปอร์ต จำกัด จำนวน 75,000,000 บาท และได้อ้างพยานหลักฐานประกอบการชี้แจง จึงพิจารณาได้ว่าการเพิ่มทุนในบริษัท มนต์ทรานสปอร์ต จำกัด จำนวน 75,000,000 บาท ไม่ใช่ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติแต่อย่างใด คำชี้แจงดังกล่าวฟังขึ้น
2) บริษัท วินวิน คอนเทนเนอร์ เดโป จำกัด จำนวน 15,000,000 บาท
นางสาวสิริมนต์ฯ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทฯ หมายเลขหุ้น 00001 - 49,997 ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2547 จํานวน 49,997 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เป็นเงินจำนวน 4,999,700 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551 นางสาวสิริมนต์ฯ ได้โอนหุ้นทั้งหมดให้นางน้ำฝน หงษ์ทอง ซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท เพชรบุรีล้ำยุค จํากัด จำนวน 49,997 หุ้น เป็นเงินจํานวน 4,999,700 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2551 นางน้ำฝน หงส์ทอง ได้โอนหุ้นทั้งหมดให้นางสาวสิริมนต์ฯ จำนวน 49,997 หุ้น เป็นเงินจํานวน 4,999,700 บาท
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2554 ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2554 มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น โดยมีผู้ถือหุ้นจำนวน 4 คน ซึ่งนางสาวสิริมนต์ฯ มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น 10,003 หุ้น เป็นจํานวนเงิน 1,000,300 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2555 ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2555 บริษัทฯ มีการเพิ่มทุน จาก 200,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เป็น 500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ซึ่งนางสาวสิริมนต์ฯ มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น 90,000 หุ้น เป็นจํานวนเงิน 9,000,000 บาท นางสาวสิริมนต์ฯ ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาถึงที่มาของการเพิ่มทุนในบริษัท วิน วิน คอนเทนเนอร์ เดโป จํากัด จำนวน 15,000,000 บาท และได้อ้างพยานหลักฐานประกอบการชี้แจง จึงพิจารณาได้ว่าการเพิ่มทุนในบริษัท วิน วิน คอนเทนเนอร์ เดโป จํากัด จำนวน 15,000,000 บาท ไม่ใช่ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติแต่อย่างใด คำชี้แจงดังกล่าวฟังขึ้น
3) บริษัท เว็บบ์ โลจิสติกส์ จำกัด จำนวน 8,000,000 บาท
นางสาวสิริมนต์ฯ มีเงินลงทุนในบริษัท เว็บบ์ โลจิสติกส์ จํากัด อยู่ก่อนพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2555 โดยบริษัท เว็บบ์ โลจิสติกส์ จํากัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2555 โดยนางสาวสิริมนต์ฯ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทฯ หมายเลขหุ้น 1600001- 2400000 ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2555 จํานวน 800,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เป็นเงินจำนวน 8,000,000 บาท นางสาวสิริมนต์ฯ ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่ากรณีลงทุนในบริษัท เว็บบ์ โลจิสติกส์ จำกัด จำนวน 8,000,000 บาท ณ วันที่นางสาวสิริมนต์ฯ พ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ก็ยังมิได้มีการชําระราคาค่าหุ้นกันจริงและยังมิได้มีผู้ถือหุ้นรายใดได้ชําระค่าหุ้นตามที่จดแจ้งไว้ โดยได้อ้างพยานหลักฐานประกอบการชี้แจง จึงพิจารณาได้ว่าการลงทุนในบริษัท เว็บบ์ โลจิสติกส์ จำกัด ดังกล่าว ไม่ใช่ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติแต่อย่างใด คำชี้แจงดังกล่าวจึงฟังขึ้น
โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เพิ่มขึ้น 45,876,600 บาท ประกอบด้วยอาคารชุด 3 หลัง
1) อาคารชุด เอททองหล่อ เรสซิเด้นซ์ ห้องเลขที่ 88/178 ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 8752, 33493, 33494, 33495, 33496, 33497 ตำบลคลองตัน (ที่ 11 พระโขนงฝั่งเหนือ) พระโขนง กรุงเทพมหานคร มูลค่า 9,600,000 บาท อาคารชุดเอท ทองหล่อ เรสซิเด้นซ์ ห้องเลขที่ 1201-B1 ชั้นที่ 12 ห้องประเภท B พื้นที่ 73.47 ตรม ตามใบจองเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2548 ราคา 6,778,995.30 บาท โดยจ่ายในวันจอง 100,000 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2548 นางสาวสิริมนต์ฯ จ่ายเงินงวดที่ 1 เป็นเงินจำนวน 587,349 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2548 นางสาวสิริมนต์ฯ จ่ายเงินงวดที่ 2 เป็นเงินจำนวน 687,349 บาท และต่อมาเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2548 นางสาวสิริมนต์ฯ จ่ายเงินงวดที่ 3 เป็นเงินจำนวน 687,349 บาท และเหลืออีกจำนวน 4,841,452.70 บาท ซึ่งต่อมาได้ทำสัญญาซื้อขายในวันที่ 9 มิถุนายน 2553 ซึ่งนางสิริมนต์ฯ ได้ชําระส่วนที่เหลือโดยแคชเชียร์เช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขที่ 5576392 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2553
นางสาวสิริมนต์ฯ ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาถึงที่มาของการชำระค่าห้อง และได้อ้างพยานหลักฐานประกอบการชี้แจงว่าได้ซื้อห้องชุด เอททองหล่อ เรสซิเด้นซ์ ห้องเลขที่ 88/178 ในราคา 6,778,995.30 บาท โดยก่อนเข้ารับตำแหน่งนางสิริมนต์ฯ ได้ชำระค่าห้องชุดไปบางส่วนแล้ว เหลือค้างชำระเป็นเงิน 4,841,472.70 บาท เมื่อนางสาวสิริมนต์ฯ เข้ารับตำแหน่งนางสิริมนต์ฯ ได้นำเงินเก็บของตนและ ดร.วิกรมฯ มาชำระค่าห้องชุดดังกล่าว ซึ่งจากข้อเท็จจริงนางสาวสิริมนต์ฯ และครอบครัว มีศักยภาพเพียงพอที่จะซื้อห้องชุด เอททองหล่อ เรสซิเด้นซ์ ราคา 6,778,995.30 บาทได้ จึงพิจารณาได้ว่าการชำระค่าห้องชุดในจำนวนดังกล่าวไม่ใช่ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติแต่อย่างใด คำชี้แจงดังกล่าวจึงฟังขึ้น
2) อาคารชุด วินด์สุขุมวิท 23 ห้องเลขที่ 136/91 ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 4003 คลองตัน (บางกะปิฝั่งใต้) พระโขนง (บางกะปิ) กรุงเทพมหานคร มูลค่า 9,000,000 บาท อาคารชุด วินด์สุขุมวิท 23 ห้อง 136/91 ชั้น 10 อาคาร 1 มีเนื้อที่ 77.71 ตรม. ได้มาเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2553 ราคาประเมิน 9,000,000 บาท โดยนางสาวสิริมนต์ฯ ทําสัญญากู้เงินกับธนาคารกรุงเทพ ในวันที่ 26 มีนาคม 2553 และจดจํานองห้องชุดดังกล่าวเป็นหลักประกัน จำนวน 7,366,000 บาท และผ่อนกับธนาคารกรุงเทพฯ สาขาประตูน้ำพระอินทร์ เดือนละ 81,800 บาท ซึ่งผ่อนหมดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557
นางสาวสิริมนต์ฯ ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่าได้ซื้อห้องชุด วินด์ สุขุมวิท 23 ห้องเลขที่ 136/91 ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 4003 คลองตัน (บางกะปิฝั่งใต้) พระโขนง (บางกะปิ) กรุงเทพมหานคร มาในราคา 7,366,000 บาท โดยทําสัญญากู้เงินกับธนาคารกรุงเทพฯ สาขาประตูน้ำพระอินทร์ และผ่อนชำระเป็นรายเดือนต่อธนาคารกรุงเทพฯ เดือนละ 81,800 บาท ด้วยเงินของตนและ ดร.วิกรมฯ ที่ได้มาโดยสุจริตจากการทำธุรกิจ และประกอบอาชีพ ซึ่งจากข้อเท็จจริงนางสาวสิริมนต์ฯ และครอบครัว มีศักยภาพเพียงพอที่จะผ่อนชำระค่าห้องชุดดังกล่าวได้ จึงพิจารณาได้ว่าการผ่อนชำระค่าห้องชุดวินด์ สุขุมวิท 23 ในราคาเดือนละ 81,800 บาท ไม่ใช่ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติแต่อย่างใด คำชี้แจงดังกล่าวจึงฟังขึ้น
แต่การที่นางสาวสิริมนต์ฯ มีรายได้อื่นจากการให้เช่าห้องชุดเลขที่ 136/91 โครงการวินด์ สุขุมวิท 23 ค่าเช่าเดือนละ 35,000 บาท ตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 เดือนมกราคม 2556 เป็นระยะเวลา 17 เดือน รวมเป็นเงิน 595,000 บาท และมีรายได้จากการให้เช่าห้องชุดเลขที่ 88/178 โครงการเอททองหล่อ ค่าเช่าเดือนละ 50,000 บาท ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 - เดือนกรกฎาคม 2556 เป็นระยะเวลา 12 เดือน รวมเป็นเงิน 600,000 บาท โดยไม่ได้นำไปยื่นเสียภาษี รวม 1,195,000 บาท เห็นควรส่งเรื่องให้กรมสรรพากรดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
3) อาคารชุด เอททองหล่อ เรสซิเด้นส์ ห้องเลขที่ 88/317 ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 8752, 33493, 33494, 33495, 33496, 33497 ตำบลคลองตัน (ที่ 11 พระโขนงฝั่งเหนือ) พระโขนง กรุงเทพมหานคร มูลค่า 27,276,600 บาท
อาคารชุด เอททองหล่อ เรสซิเด้นส์เซส ห้องเลขที่ 88/317 ชั้น 30 อาคาร 1 อาคารชุดเลขที่ 12/2553 เนื้อที่ 233.82 ตรม. ได้มาเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2553 ในราคา 27,276,600 บาท โดยนางสาวเขมิกาฯ เป็นผู้ชําระค่าห้องชุดนี้ ด้วยเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขา ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เลขที่ 4148216 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2553 จํานวนเงิน 5,563,220 บาท และแคชเชียร์เช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขที่ 5576481 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2553 จํานวนเงิน 21,994,474.80 บาท รวมชําระราคาทั้งสิ้น 27,557,694.80 บาท โดยราคาห้องชุดคำนวณตามพื้นที่จริงไม่รวมพื้นที่จอดรถ 24 ตร.ม. จะมีราคา 27,276,600 บาท
นางสาวสิริมนต์ฯ ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาถึงที่มาของการซื้อห้องชุด เอททองหล่อ เรสซิเด้นส์เซส ห้องเลขที่ 88/317 ในราคา 27,276,600 บาท นางสาวเขมิกาฯ มารดาของนางสาวสิริมนต์ฯ เป็นผู้ชำระเงินให้ทั้งหมด และได้อ้างพยานหลักฐานประกอบการชี้แจงว่าได้เงินจำนวนดังกล่าวมาอย่างไร ซึ่งจากข้อเท็จจริงพบว่านางสาวเขมิกาฯ มารดาของนางสาวสิริมนต์ฯ มีศักยภาพเพียงพอที่จะซื้อห้องชุดดังกล่าวได้ จึงพิจารณาได้ว่าการซื้อห้องชุด เอททองหล่อ เรสซิเด้นส์เซส ห้องเลขที่ 88/317 ในราคา 27,276,600 บาท ไม่ใช่ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติแต่อย่างใด คำชี้แจงดังกล่าวจึงฟังขึ้น
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 7 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่าจากการไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฎข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นางสาวสิริมนต์ อู่ทรัพย์ ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ทั้งนี้ ปรากฎข้อเท็จจริงว่านางสาวสิริมนต์ อู่ทรัพย์ ผู้ถูกกล่าวหา มีรายได้อื่นจากการให้เช่าห้องชุดเลขที่ 136/91 โครงการวินด์ สุขุมวิท 23 ตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 เดือนมกราคม 2556 เป็นระยะเวลา 17 เดือน และมีรายได้จากการให้เช่าห้องชุดเลขที่ 88/178 โครงการเอททองหล่อ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 - เดือนกรกฎาคม 2556 เป็นระยะเวลา 12 เดือน แต่ไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และรายได้ดังกล่าวไม่ได้รับการยกเว้นภาษี ให้แจ้งกรมสรรพากรเพื่อดำเนินการทางภาษี ต่อไป