‘สุริยะ’ ชี้แจงไม่ได้ยึดคืนสัมปทานรถไฟฟ้า แต่ซื้อคืนเท่านั้น เพื่อบีบค่าโดยสารราคาถูก เปลี่ยนนโยบายร่วมทุนเป็น Gross Cost ทั้งหมด จับมือ ‘คลัง’ ตั้งกองทุนซื้อคืนสัมปทาน ส่วนสายสีเขียว ไม่จำเป็นต้องโอนให้คมนาคม ให้คลังออกหน้าซื้อคืน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 26 สิงหาคม 2567 ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากที่ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการซื้อคืนระบบรถไฟฟ้า หลังจากการแสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น
นายสุริยะระบุว่า ขอขยายความเพิ่มเติมจากที่ให้สัมภาษณ์ โดยรัฐบาลไม่ได้มีแนวคิดจะยึดคืนสัมปทานจากเอกชนแต่อย่างใด เนื่องจากหลังมีการเสนอข่าวออกไป ได้มีบริษัทคู่สัญญาสื่อสารว่า จะเป็นการรังแกเอกชนหรือไม่ และส่งผลกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ข้อเท็จจริงคือ สิ่งที่นายทักษิณสื่อสารนั้น ก็เพื่อต้องการให้ประชาชน โดยเฉพาะประชาชนในเขตกรุงเทพฯ รับการบริการรถไฟฟ้าในราคาถูก สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่กำลังขับเคลื่อนราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยจะมีการตั้งกองทุนโดยกระทรวงการคลัง เพื่อเจรจาซื้อสัญญาสัมปทานที่เหลือไว้ ทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-หลักสอง, สายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์), สายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพูช่วงแคราย - มีนบุรี ซึ่งที่ว่ามาเหลืออายุสัมปทานประมาณ 25-30 ปี และจะรวมถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งสายทางที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 2572 นี้ด้วย
“เมื่อซื้อคืนเสร็จ รัฐจะจ้างให้เอกชนเดินรถต่อไป โดยที่เอกชนจะไม่มีความเสี่ยงในการเดินรถ และประชาชนจะเกิดความมั่นใจว่า จะใช้รถไฟฟ้าหลายๆสีในราคร 20 บาทได้อย่างแน่นอน” นายสุริยะกล่าว
@ไม่รอหมดสัมปทาน ซื้อคืนทันที เป็น PPP Gross Cost
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า จะต้องรอให้สัญญาเดิมที่กำลังดำเนินการอยู่ในแต่ละสายสิ้นสุดก่อนหรือไม่ นายสุริยะตอบว่า ไม่ใช่ แต่จะเป็นการไปซื้อสัมปทานตามระยะเวลาที่ยังเหลืออยู่จากเอกชนที่รับสัมปทาน โดยจะให้ราคาที่เป็นธรรม ส่วนสัญญาที่มีจะเปลี่ยนรูปแบบไปเลยเป็นจ้างเอกชนเดินรถแทน โดยเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) จาก Net Cost (เอกชนได้รับสิทธิ์ในการจัดเก็บรายได้ และจัดสรรผลตอบแทนบางส่วนให้แก่ภาครัฐตามข้อตกลง ซึ่งเอกชนจะต้องรับความเสี่ยงจากผลดำเนินงานทั้งหมด) เป็น Gross Cost (ภาครัฐจัดเก็บรายได้ทั้งหมด และชดเชยค่าตอบแทนให้บริษัทเอกชนตามค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินงาน (Full Operating Cost) แบบคงที่ (Fixed Payments)) แทน
เมื่อถามอีกว่า แสดงว่าต่อไปนี้นโยบายการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายทางต่างๆ จะเปลี่ยนจาก PPP Net Cost เป็น PPP Gross Cost หรือไม่ นายสุริยะตอบว่า ยังไม่ได้มองไปถึงจุดนั้น เอารถไฟฟ้าวันนี้ก่อน แต่เบื้องต้น คงให้เป็น PPP Gross Cost
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากในอนาคตการก่อสร้างรถไฟฟ้าใช้เเนว PPP Gross Cost แทนทั้งหมด จะเป็นภาระงบประมาณหรือไม่ เพราะการใช้ PPP Net Cost แม้ค่าโดยสารจะแพง แต่การก่อสร้างเอกชนเป็นผู้รับภาระทั้งหมด รัฐไม่ต้องมีภาระงบประมาณเพิ่มเติม นายสุริยะตอบว่า ไม่มี ที่ผ่านมารัฐบาลจัดการโยธาอยู่แล้วทุกเส้นทาง จึงไม่มีภาระเพิ่มเติมด้านงบประมาณแน่นอน
@ให้ 'คลัง' คุย กทม.ซื้อสัมปทานสายสีเขียว
ส่วนกรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะเอามาร่วมอย่างไร เพราะสัมปทานยังเป็นของกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายสุริยะกล่าวว่า ก็ให้กระทรวงการคลังในฐานะรัฐบาลกลางซื้อคืนมา แล้วให้เอกชนคู่สัญญาเดิมเดินรถต่อไป ซึ่งของรถไฟฟ้าสายสีเขียวคือ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ดังนั้น นโยบายนี้กระทรวงการคลังกับกระทรวงคมนาคมจะต้องทำงานร่วมกัน
“สัมปทานไหนที่เป็นของ BTS เราก็จะจ้าง BTS เดินรถต่อไป อันไหนเป็นของ BEM (บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ) ก็ให้เขาบริหารเดินรถต่อไป ถ้าตรงไหนสัมปทานไหนหมดอายุ ก็ไปซื้อมาใหม่แล้วจ้างเดินรถไป เราเคารพในสัญญาระหว่างที่รัฐและเอกชนมีต่อไป ส่วนปัญหาที่สายสีเขียวอยู่ภายใต้กทม. ก็จะให้กระทรวงการคลังไปเจรจากับ กทม.แทน ไม่ต้องโอนมาให้กระทรวงคมนาคม กทม.ก็ดูแลไป” นายสุริยะกล่าว
@ปัดใช้เงินซ้ำซ้อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าก่อนจะหมดอายุสัญญา จะต้องแก้สัญญาสัมปทานหรือไม่ นายสุริยะตอบว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องในรายละเอียดที่จะต้องไปทำให้ถูกต้อง คงต้องขอให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังไปศึกษาร่วมกันก่อน ซึ่งจะเริ่มทำทันที
เมื่อถามอีกว่า เป็นการใช้เงินซ้ำซ้อนหรือไม่ เพราะต้องอุดหนุนรถไฟฟ้าตามนโยบาย 20 บาทตลอดสาย ทั้งการซื้อคืนมาจ้างบริหารเองอีก นายสุริยะตอบว่า ทั้งหมดเชื่อว่า ผลประโยชน์จะตกกับประชาชนและสอดคล้องกับนโยบายลดโลกร้อน ให้คนมาใช้ขนส่งสาธารณะ ส่วนราคาขายใครเป็นคนตั้ง คิดว่าต้องมีการศึกษากันก่อน ไม่ใช่จะให้เอกชนตั้งราคาเอาเปรียบรัฐ
อ่านประกอบ
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 