‘เศรษฐา’ มอบ ‘หมอมิ้ง’ ไปฟังคำวินิจฉัยศาลรธน.พรุ่งนี้ (14 ส.ค. 67) เผยมีวาระงานประชุมที่ทำเนียบฯ ยังอุบมีงานนอกหรือไม่ ระบุไม่ได้หารือ ‘วิษณุ’ แต่แย้มมีแผนงานกรณีเป็นรักษาการนายกฯไว้แล้ว ไม่ทราบถ้าหลุดจากตำแหน่งกระทบเชื่อมั่นภาคเอกชนหรือไม่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 13 สิงหาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5 ) หรือไม่นั้น เบื้องต้น มอบให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปรับฟังคำวินิจฉัย
เมื่อถามว่า ในวันที่ 14 ส.ค. นายกฯ มีภารกิจใดบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า เยอะแยะเลย แต่ไม่แน่ใจจำตารางงานไม่ได้ แต่รู้ว่าตารางแน่นเอี้ยดเหมือนกัน แต่ก็ยังคงทำงานตามปกติ
เมื่อถามอีกว่า จะไม่มีเดินทางไปภารกิจนอกทำเนียบรัฐบาลใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า จำตารางไม่ได้จริงๆ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่า ในการหารือระหว่าง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพา.ณิชย์ กับบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล วานนี้ (12 ส.ค.) ไม่ได้มีการพูดถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม)
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้มีการส่งเรื่องปรับ ครม.ในส่วนพรรคมาให้นายกรัฐมนตรีแล้วหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า รวมไทยสร้างชาติได้ส่งหนังสือมาเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างที่ตนได้บอกไปว่าเดือนนี้มีเรื่องเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่สื่อให้ความสนใจในวันที่ 14 ส.ค.นี้ ดังนั้น ถ้าตนจะปรับ ครม. อะไรก่อน ส่วนตัวคิดว่าความเหมาะสมไม่มี
เมื่อถามย้ำว่า ไทม์ไลน์ยังเหมือนเดิม คือ การปรับ ครม.จะเป็นหลังเดือนสิงหาคมใช่หรือไม่ ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่ครับ เป็นอะไรที่ต้องพูดคุยกันอีกที ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาในอดีตว่ามีอดีตรัฐมนตรีน้อยใจลาออกไป แล้วจะเข้ามาจะไปอยู่ตรงไหน แล้วจะเกิดปัญหาเดิมอีกหรือเปล่า เราอยู่ด้วยกันก็ต้องพูดคุยกัน”
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุมครม.ไม่ได้หารือเกี่ยวกับคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค. 67)
เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับ นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในเรื่องนี้อย่างไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ได้เตรียมข้อมูลและส่งข้อมูลครบแล้ว จากวันนั้นจนกระทั่งวันนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอีก
เมื่อถามว่า นายวิษณุ บอกว่า หากนายกฯถูกวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง ก็สามารถที่จะกลับมาเป็นนายกฯได้อีก โดยต้องฟังจากคำวินิจฉัยว่าผิดมาตราใด นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้คุยเรื่องนี้เลย ตนไม่ทราบเลย ซึ่งทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างที่ตนบอก 2 สัปดาห์ที่แล้วได้ส่งคำแถลงการปิดคดีไปแล้ว ไม่ได้มีการพูดคุยอีกเลย
เมื่อถามอีกว่า พรรคเพื่อไทยได้มีการเตรียมการอย่างไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามพรรค เมื่อถามว่า วันที่ 14 ส.ค. นายกฯ มีภารกิจอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ตนได้มอบให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปรับฟังแทน ซึ่งตอนบ่ายตนมีภารกิจเต็มเอี๊ยด
เมื่อถามว่า มีภารกิจนอกทำเนียบหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เข้าใจว่าอยู่ในทำเนียบ เมื่อถามว่าจะมีการตั้งวอร์รูมฟังคำวินิจฉัยของศาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีวอร์รูม เพราะมันจบแล้วตั้งแต่ส่งคำแถลงการปิดคดี ซึ่งถือว่าเราได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่า วันที่ 14 ส.ค.นายกฯ จะพอมีเวลานั่งติดตามฟังคำวินิจฉัยได้บ้างหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คิดอย่างนี้ ตนมีประชุมอยู่แล้ว แต่เป็นการประชุมภายในกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ฉะนั้น ถ้ามีผลคำวินิจฉัยเชื่อว่าทีมงานคงเข้ามาบอก ซึ่งตนก็ประชุมไปเรื่อยๆ แต่คงไม่ใช่เซ็ตการประชุมอย่างเป็นทางการ เมื่อถามว่า มีแผนสำรองหรือไม่ถ้าไม่ได้เป็นนายกฯต่อไป นายกฯ กล่าวว่า อ๋อ ไม่ได้คิดอะไรในเรื่องนี้ ให้มันเกิดขึ้นก่อนและค่อยว่ากันครับ
เมื่อถามว่า ดูเหมือนนายกฯมีความมั่นใจพอสมควร นายกฯ กล่าวว่า “ไม่ครับ ผมมีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ เรื่องต่างๆ ที่สำนักข่าวหลายๆ สำนักเอาไปวิจารณ์ หรือบางข่าวบอกว่าผมหน้าเศร้าบ้างอะไรบ้าง คุณแม่ผมเพิ่งเสียไป ผมก็หน้าเศร้าเป็นธรรมดา หรือบางคนก็บอกแหม๋มั่นใจมาก ไปเซตอัปการประชุมวางตารางเพียบถึงสิ้นเดือน มันเป็นหน้าที่ของนายกฯที่ต้องมีการบริหารราชการแผ่นดิน มีการเตรียมงานความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ผมก็เตรียมไป แต่ถ้าผลออกมาเป็นบวกกับตัวผมเอง ผมก็เดินหน้าที่งานต่อไป แต่ถ้าผลออกมาเป็นลบรักษาการนายกฯ ก็นำแผนงานที่ตนเซตไว้ไปพิจารณาและปรับปรุงตามความเหมาะสมของท่านเอง อันนี้เป็นเรื่องการทำงานทั่วๆไปมากกว่า ไม่ได้เป็นความแสดงออกมั่นใจหรือไม่มั่นใจอะไร เราทำดีที่สุด และได้ส่งคำแถลงปิดคดีไปแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม”
เมื่อถามว่า หากนายกฯเกิดอุบัติเหตุงานที่เซตไว้ใครจะมาทำก็สามารถเดินต่อได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า การเซตอัปงานไม่ใช่ว่าเป็นความประสงค์ของตนเอง แต่เซตอัปงานตามปัญหาของประชาชนที่เกิดขึ้น แน่นอนถ้าเกิดว่าต้องหลุดแล้วมีรักษาการรองนายกฯมาดูท่านก็คงจะพิจารณาดูตามลำดับความสำคัญที่ท่านเห็นว่าเหมาะสม อย่างน้อยหากท่านเข้ามาก็จะได้รับทราบว่าเราได้มีการแพลนอะไรไปแล้วบ้าง เมื่อถามว่าวันนี้นายกฯอยากจะพูดอะไรถึงประชาชนผ่านสื่อฯหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี วันนี้ประชุม ครม.ตนได้แจ้งว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง และวันเดียวกันนี้ช่วงบ่ายมีงานเต็ม ก็ทำงานไปเรื่อยๆ ครับ
เมื่อถามว่า มองกันว่า หากผลคำวินิจฉัยออกมาเป็นลบ จะมีผลกระทบต่อจิตวิทยาในการลงทุน ของนักลงทุนที่นายกฯไปเดินสายไว้ที่ต่างประเทศ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้