ฉลอง'วันชนเผ่าพื้นเมืองฯ' รมว.วธ.ย้ำรัฐให้ความสำคัญ ชู Soft Power ชาติพันธุ์ พลังสร้างสรรค์ชาติ รับปากเร่งดัน กม.คุ้มครอง-ส่งเสริมฯ คาดกรรมาธิการฯพิจารณาร่างเสร็จใน ส.ค.นี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรฯ, ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม, และสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่ทำงานกับกลุ่มชาติพันธุ์ และชนเผ่าพื้นเมือง จัดงานกิจกรรมรณรงค์และเฉลิมฉลอง เนื่องในวันชนเผ่าพื้นเมือง ประจำปี 2567 ขึ้น ภายใต้แนวคิด 'ร่วมฉลองกฎหมายคุ้มครองสิทธิและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง'
น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน Soft Power ชาติพันธุ์ พลังสร้างสรรรค์ชาติ โดยได้ร่วมล้อมวงเต้นรำ ประกอบการแสดงดนตรีของกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ ร่วมกับ นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์มานุษวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ตัวแทนหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มชนเผ่าพื้นเมือง เพื่อเป็นแสดงออกในการเฉลิมฉลองเนื่องในวันชนเผ่าพื้นเมือง
น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมเฉลิมฉลองกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์จากทั่วประเทศทั้ง 60 กลุ่มชาติพันธุ์ ในโอกาส วันสำคัญที่สหประชาติกำหนดให้เป็นวันเฉลิมฉลองความหลากหลายทางชาติพันธุ์
รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ทุกกลุ่มอย่างเสมอภาค และเห็นว่าความหลากหลายทางวัฒนธรรมของพี่น้องกลุ่ม ชาติพันธุ์ เป็น “พลังสร้างสรรค์” หรือ Soft Power ของประเทศ โดยมีนโยบายดูแลพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีงาน มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
น.ส.สุดาวรรณ กล่าวด้วยว่า สำหรับกระทรวงวัฒนธรรม ได้เร่งรัดผลักดันให้มีกฎหมายคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ โดยเสนอให้คณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 และสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการวาระแรก เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567
ขณะนี้ อยู่ในกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อเป็นของขวัญให้พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ในโอกาสเดือนแห่งการเฉลิมฉลองความหลากหลายทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์
“การได้มาร่วมงานในวันนี้ ดิฉันได้เห็นถึงศักยภาพทางวัฒนธรรมของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์จากทั่วประเทศ ดิฉันจึงมั่นใจว่า เมื่อกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ จะเป็นโอกาสที่สำคัญของประเทศเรา เพราะเมื่อพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ได้รับการคุ้มครองสิทธิและเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างเสมอภาค มีความมั่นคงในชีวิต มีความภูมิใจในความเป็นชาติพันธุ์ ก็จะพร้อมใช้ศักยภาพทุนวัฒนธรรม เป็น Soft Power เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานวัฒนธรรม สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์จะสามารถพึ่งตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรีและมีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นพลังสร้างสรรค์ชาติให้มีความสามารถทางการแข่งขัน และเพิ่มโอกาสใหม่ ๆ ให้กับประเทศอย่างยั่งยืน” น.ส.สุดาวรรณ กล่าว
นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร กล่าวถึงความก้าวหน้าของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ว่า ในคณะกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งมีผู้แทนจากทั้งส่วนราชการ ผู้ทรงคุณวุฒิ และพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ ได้ร่วมกันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้ง 35 มาตรา เสร็จแล้วในเบื้องต้น
ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาทบทวนถ้อยคำให้มีความสอดคล้องกันทั้งฉบับ ซึ่งตนเชื่อว่าในชั้นกรรมาธิการวิสามัญจะพิจารณาเสร็จได้ทันภายในเดือนสิงหาคมนี้
“ พ.ร.บ.ฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ทุกกลุ่มวัฒนธรรมและส่งเสริมศักยภาพกลุ่มชาติพันธุ์บนฐานทุนทางวัฒนธรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน และที่สำคัญพระราชบัญญัติฉบับนี้จะเป็นการสร้างโอกาสแห่งความเสมอภาคของคนทุกกลุ่มในสังคม” นพ.โกมาตร กล่าว
นพ.โกมาตร กล่าวว่า ในกระบวนการยกร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ได้ศึกษาวิจัยเปรียบเทียบกับกรณีของต่างประเทศ และศึกษาผลกระทบกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ พร้อมทั้งได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์อย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีของการจัดทำ หลังจากที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการขับเคลื่อนกฎหมายชาติพันธุ์ จึงเชื่อว่านี่จะเป็นกฎหมายที่ดีที่สุดอีกฉบับหนึ่งของประเทศไทยที่จะคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ทุกกลุ่มวัฒนธรรมอย่างเสมอภาคกัน
ด้าน นายเกรียงไกร ชีช่วง ประธานสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเป้าหมายการจัดงานว่า เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวันสากลชนเผ่าพื้นเมืองโลกและวันชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังเพื่อเปิดพื้นที่สร้างความเข้าใจทางวิชาการในประเด็นกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง พร้อมทั้งเพื่อสร้างความร่วมมือและร่วมกำหนดแนวทางการผลักดัน ขับเคลื่อน และสนับสนุนการพิจารณาร่างกฏหมายคุ้มครองสิทธิและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง และเพื่อร่วมรณรงค์สาธารณะ เผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมอีกด้วย