เผยมติ ป.ป.ช. 4 ต่อ 3 เสียง ชี้มูล 'ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ' สส.ภูมิใจไทย คดีรับทรัพย์สินยอมให้บุคคลภายนอกชำระค่ารักษาพยาบาลแทนตนเอง 1.3 ล้าน ส่งสำนวน อสส. ฟ้องคดีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผิดอาญา-จริยธรรมร้ายแรง-เจ้าตัวโต้ยังไม่มีมติ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ชี้มูลความผิด นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดสงขลา พรรคภูมิใจไทย (สมัยแรก) กรณีกล่าวหารับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากผู้ใด เนื่องจากยอมให้บุคคลภายนอกชำระค่ารักษาพยาบาลแทนให้แก่ตนเอง เป็นจำนวนเงิน 1,335,778 บาท ในเข้ารักษาทางด้านโรคหัวใจที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ช่วงวันที่ 23 ก.ย.-18 ต.ค.2562
โดยกรรมการ ป.ป.ช. เสียงข้างมาก 4 เสียง ได้แก่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. นายวิทยา อาคมพิทักษ์ นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ และนายภัทรศักดิ์ วรรณแสง ส่วนกรรมการ ป.ป.ช.เสียงข้างน้อย ได้แก่ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข และนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์
สำหรับฐานความผิดของ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากผู้ใด นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 128 ประกอบ มาตรา 169
นอกจากนี้ ยังมีมูลความผิด ฐานขอ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดในประการที่อาจทำให้กระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ ฐานรับของขวัญของกำนัล ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดและฐานกระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ข้อ 9 ข้อ 10 และข้อ 7 ประกอบข้อ 27
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน ไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และให้เสนอเรื่องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงต่อศาลฎีกาฯ เพื่อวินิจฉัยตามฐานความผิดดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่สิ้นสุด นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก
@ 'ณัฏฐ์ชนน' โต้ข่าวป.ป.ช.ยังไม่มีมติชี้มูล
ขณะที่นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา เขต 7 พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์สงขลาโฟกัสถึงกรณีที่คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติชี้มูลว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะได้เดินทางไปให้ปากคำพร้อมยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการป.ป.ช. เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา
“สื่อบางสำนักที่นำเสนอข่าวว่า ผมถูกคณะกรรมการป.ป.ช. ชี้มูลนั้น แค่เป็นการขายข่าว” นายณัฏฐ์ชนน กล่าว
นายณัฏฐ์ชนน ยังยืนยันว่าข้อร้องเรียนค่ารักษาพาบาลยังอยู่ระหว่างกระบวนการไต่สวน ของป.ป.ช. ยังไม่มีมติชี้มูล
กล่าวสำหรับ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ชื่อเล่น หนุ่ย เป็นสส.เขต 7 จังหวัดสงขลา 2 สมัย สังกัดพรรคภูมิใจไทย มีตำแหน่งเป็นรองโฆษกพรรคภูมิใจไทย
นายณัฏฐ์ชนน เคยดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา เขตอำเภอจะนะ ก่อนที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปี พ.ศ. 2562 สังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยสามารถเอาชนะนายศิริโชค โสภา จากพรรคประชาธิปัตย์ ไปได้ และได้รับเลือกติดต่อกัน รวม 2 สมัย
ก่อนหน้านี้ เคยถูกร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. กรณีกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณียอมรับทรัพย์สินซึ่งมีราคาเกิน 3,000 บาท จากบุคคลภายนอกเป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง สส. จังหวัดสงขลา เขต 7 พรรคภูมิใจไทย สมัยแรก ช่วงปี 2564
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2567 มีมติเสียงไม่เอกฉันท์ ตีตกข้อกล่าวหา หลังคณะกรรมการเสียงส่วนใหญ่ เห็นว่าจากการไต่สวนไม่ปรากฏข้อเท็จจริงพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่านายณัฏฐ์ชนน ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหาก ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ส่วนทรัพย์สินที่มีราคาเกิน 3,000 บาท ที่ถูกร้องเรียนในคดี คือ iPad Pro พร้อม Apple Pencil