เผยมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูล 'สำเริง เกิดปั้น' อดีตนายก อบต. สระกะเทียม นครปฐม คดีร่ำรวยผิดปกติ เงิน 10,061,250 บาท โผล่บัญชี 2 ธนาคาร ส่งสำนวน อสส. ฟ้องร้องดำเนินคดีตาม กม. ให้ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลคดีร่ำรวยผิดปกติ ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า ในช่วงปี 2566 คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิด นายสำเริง เกิดปั้น อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สระกะเทียม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ในคดีร่ำรวยผิดปกติ
หลังตรวจสอบพบว่า นายสำเริง เกิดปั้น มีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบ เนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 10,061,250 บาท ตามรายการดังต่อไปนี้
1. เงินฝากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ชื่อบัญชี นายสำเริง เกิดปั้น จำนวน 21 รายการ รวมเป็นเงิน 6,661,000 บาท
2. เงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ชื่อบัญชี นายสำเริง เกิดปั้น จำนวน 14 รายการ รวมเป็นเงิน 3,400,250 บาท
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน และให้ส่งคำวินิจฉัยพร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้มีอำนาจสั่งให้พ้นจากตำแหน่งเพื่อสั่งให้พ้นจากตำแหน่งภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง และให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่
หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลาสิบปีด้วย
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า ปัจจุบันศาล มีคำพิพากษาคดีร่ำรวยผิดปกติของ นายสำเริง เกิดปั้น ไปแล้วหรือไม่
ขณะที่ การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกชี้มูลความผิดยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก