ปปป.ตั้งข้อหาคณะบริหารโรงเรียนสมานคุณวิทยาทาน ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ปลอมเอกสาร ยักยอกงบอาหารกลางวัน อุปกรณ์การเรียน พบหักหัวคิวอาหารกลาุงวันสูงสุดถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ตั้งงบอาหารนักเรียนรายหัว 22 บาท แต่หักเหลือ 17 บาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 มิ.ย. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัฒน์ ผกก.6 บก.ปปป. พ.ต.ท.สมนึก ห่านทองสุขศรี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.6 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการแจ้งข้อกล่าวหาแก่คณะผู้บริหารโรงเรียนสมานคุณวิทยาทาน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประกอบด้วย นายพิพัตน์ เสนาพิทักษ์กุล(ผู้ต้องหาที่ 1) เป็นผู้จัดการ/ผู้อำนวยการ , นางอุบล สุขะนันท์ (ผู้ต้องหาที่ 2) ตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนสมานคุณวิทยาทาน ฝ่ายงบประมาณ มีหน้าที่ทำบัญชีรายรับรายจ่าย และเบิกจ่ายเงินงบประมาณของโรงเรียนฯ , นางอัญชลี พวงสุวรรณ์ (ผู้ต้องหาที่ 3) ตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานบุคคล, นางถิระนันท์ พัฒโน ( ผู้ต้องหาที่ 4) ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหารงานงบประมาณ ในความผิดฐาน “ร่วมกันยักยอก และ ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม”
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวเนื่องจาก ก่อนหน้านี้ได้มีคณะครูของโรงเรียนเข้ามายื่นเรื่องตำรวจ บก.ปปป ว่า มีการทุจริตภายในโรงเรียนเกิดขึ้น อาทิ งบอาหารกลางวัน รวมไปถึงอุปกรณ์การเรียนต่างๆ หลังรับเรื่องจึงนำกำลังลงพื้นที่ พร้อมตรวจยึดเอกสารงบประมาณต่างๆของโรงเรียนมาตรวจสอบ ก่อนพบว่า มีการทุจริตหลายกรณี โดยเฉพาะโครงการอาหารกลางวัน ที่มีการหักเงินส่วนนี้มากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ คงเหลือเงินที่จะใช้เป็นงบทำอาหารกลางวันเลี้ยงเด็กเพียงแค่ 70 กว่า เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในจำนวนที่เหลือนี้จะใข้เป็นค่าแรงแม่ครัวและค่าวัตถุดิบประกอบอาหาร
ส่วนต่อมาเป็นการทุจริต เงินสนับสนุนเครื่องแบบหรือ อุปกรณ์การเรียน หนังสือเรียน หลังพบว่ามีการนำเอกสารให้ผู้ปกครองเซ็นต์รับสิทธิ์ ก่อนนำไปเบิกหนังสือใหม่ตามปกติ แต่พอถึงเวลากลับนำหนังสือเก่ามาเวียนให้เด็กนักเรียนใช้ ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวมีเด็กนักเรียนประมาณ 1.7 พันคน แต่ละปีจะมีการทุจริตเงินงบสนับสนุนอุปกรณ์การเรียนตกปีละ 1.2 ล้านบาท ขณะที่การทุจริตอาหารกลางวันจะอยู่ที่ปีละประมาณ 9 แสนกว่าบาท เชื่อว่าน่าจะทำมานานหลายปี เพียงแต่หลักฐานย้อนหลังที่เราตรวจพบมีอยู่เพียงแค่ 2-3 ปี
สำหรับเคสนี้เราสอบปากคำพยานมากกว่า 100 ปาก ค่อนข้างมีพยานหลักฐานแน่ชัด แต่เนื่องด้วยโรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนเอกชน จึงไม่เข้าข่ายอำนาจหน้าที่ของ ตำรวจ บก.ปปป. จึงส่งสำนวนต่อให้ทาง บก.ป. เป็นผู้ดำเนินการ จนมีการแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ราย ยังคงยืนกรานปฏิเสธ
อย่างไรก็ตามสำหรับปัญหาลักษณะดังกล่าว ทางเราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาตำรวจ ปปป. เองก็เคยจับกุมมาแล้วในพื้นที่ กทม. โดยหลังจากนี้จะมีการจัดกำลังลงพื้นที่สุ่มตรวจตามโรงเรียนต่างๆมากขึ้น เพื่อเป็นการป้องปราม ทั้งนี้อยากฝากไปถึงกระทรวงการศึกษาให้ช่วยเข้มงวดตรวจสอบ นอกจากนี้อยากฝากไปถึง เจ้าอาวาสวัดโคกสมานคุณ ให้ข่วยดำเนินการปลด คณะผู้บริหารโรงเรียนคณะนี้ เพราะทราบว่าก่อนหน้านี้เคยปลดไปแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนจะมีการเจรจาขอกลับมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา หรือ ม๊อบชาวบ้านประท้วงขึ้นมา
พล.ต.ต.ประสงค์ กล่าวว่า เคสดังกล่าวเคยมีการร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีหน่วยงานไหนแก้ไข นำมาสู่การร้องตำรวจ ปปป. จนมีการตรวจสอบพบการกระทำผิด อย่างไรก็ตามในส่วนของแม่ครัว เบื้องต้นให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นดี จึงกันไว้เป็นพยาน ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา
ด้าน พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า หลังกองปราบรับสำนวนต่อมาจาก บก.ปปป. ได้มีการสอบปากคำ พยาน ผู้ปกครอง นักเรียน ครู เจ้าหน้าที่รัฐ กว่า 150 ปาก จนพบว่ามีการให้ผู้ปกครองลงลายมือชื่อในเอกสารไว้ ว่าได้รับเงินตามที่ระบุภายในเอกสาร ซึ่งการกระทำเช่นนี้เข้าข่ายเป็นการปลอมเอกสาร ส่งผลต่อเรื่องการได้รับสิทธิ์ อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องเงินค่าอาหารกลางวัน ก็พบว่าเข้าข่ายความผิดฐาน ยักยอก ซึ่งอัตราโทษการทุจริตทั้ง 2 กรณีมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี เพียงแค่เป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ
พ.ต.อ.สถาปนา กล่าวว่า สำหรับเอกสารหลักฐานที่ตรวจยึดมาได้นั้น ส่วนใหญ่เกี่ยวกับเรื่องจัดทำงบประมาณ เงินอุดหนุนรัฐบาล แต่ละโครงการมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันไปอาทิ งบอุดหนุนรายบุคคล งบกลางวัน งบสนับสนุนอุปกรณ์ศึกษาและหนังสือเรียน
อย่างรายละเอียดเงินอุดหนุนอาหารกลางวันเด็ก พบ มีการสนับสนุนงบให้นักเรียนตก 22 บาทต่อหัว แต่จากการสอบพยานต่างๆพบว่ามีการหักส่วนต่างไป 5 บาท คงเหลือจ่ายแม่ครัว เพียงแค่ 17 บาท จนทำให้อาหารไม่ได้คุณภาพตามที่ควร
คลิปประกอบ :