สื่อเมียนมารายงาน ชาวจีนเอี่ยวฉ้อโกงออนไลน์ยังคงเดินทางเข้าชเวโก๊กโก ผ่านสนามบินแม่สอด สวนทางคำเตือนกองกำลัง BGF ให้ชาวต่างชาติเอี่ยวกิจกรรมฉ้อโกงออกจากพื้นที่ เผยมีชาวจีนเอี่ยวฉ้อโกงตั้งถิ่นฐานในกรุงเทพมากขึ้นเรื่อยๆ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์ที่ประเทศเมียนมาซึ่งเชื่อมโยงกับประเทศไทยว่าสำนักข่าว BNI ซึ่งเป็นสื่ออิสระในประเทศเมียนมาได้รายงานข่าวว่าพบข้อมูลว่ามีชาวจีนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆที่เดินทางมายังสนามบินแม่สอด ซึ่งชาวจีนเหล่านี้มีส่วนเชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรมที่เมืองชเวโก๊กโก โดยนี่เป็นข้อบ่งชี้ว่าคำเตือนของกองกําลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ที่ให้ชาวต่างชาติที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงโทรคมนาคมในชเวโก๊กโกต้องออกจากเมืองไปภายในวันที่ 31ต.ค. นั้นไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง
สำนักข่าว BNI รายงานว่ากองกำลัง BGF ได้เคยออกคำเตือนไปถึงชาวต่างชาติทั้งหมดที่มีส่วนเกี่ยวกับการฉ้อโกงโทรคมนาคมในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งครอบคลุมถึงพื้นที่ชโวโก๊กโกต้องออกไปภายในวันที่ 1 พ.ค.-31 ต.ค.
อย่างไรก็ตามมีพยานที่มีความรู้ภาษาจีนได้ยินเสียงการสนทนาระหว่างชาวจีนด้วยกันที่เดินทางมาถึงยังสนามบินแม่สอด โดยชาวจีนเหล่านี้หารือกันเกี่ยวกับเจตนาที่จะเดินทางไปยังชเวโก๊กโก ตามรายงานของสำนักข่าวทางการของชาติพันธุ์กะเหรี่ยงหรือ KIC
“ที่สนามบิน ผมเห็นนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมาก ผมได้ยินคนจีนบางกลุ่มหารือกันถึงแผนการจะไปยังชเวโก๊กโก มีคนขับรถชาวเมียนมามารับและส่งพวกเขาจากสนามบิน” พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าว
พยานอีกรายรายงานว่ามีชาวจีนที่เดินทางจากกรุงเทพไปยังสนามบินแม่สอด ซึ่งที่นั่นมียานพาหนะมารอรับไปยังพรมแดนฝั่งเมียนมาอยู่แล้ว
แม้กองกำลัง BGF จะตั้งป้ายโฆษณาและออกประกาศเตือนผู้ประกอบการต่างชาติที่ทำธุรกิจฉ้อโกงหลอกลวงที่เรียกว่า “ชาเปียน” ให้ออกจากพื้นที่ แต่ความเป็นจริงในชเวโก๊กโก, มิน ลัด ปัน (Min Lat Pan), อิงหยิน เมียอิง (Ingyin Myaing) และเมียวดี กลับมีการขยายการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการรับสมัครพนักงานเพิ่มเติม
ปัจจุบันกองกำลัง BGF ซึ่งควบคุมเมืองเมียวดีได้แล้วในฐานะตัวแทนฝั่งรัฐบาลทหารได้มีการอารักขาความปลอดภัยในนิคมชเวโก๊กโก โดยได้มีการวางกำลังทหาร 1 พันนายในภูมิภาคนี้พร้อมกับดำเนินการลาดตระเวนทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมกับดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ตามข้อมูลของชาวบ้าน
ทางด้านของ พ.ท.ซอว์ ทิน วิน ผู้บัญชาการยุทธวิธีประจําพื้นที่ทหารที่ 2 ของกองกำลัง BGF กล่าวว่ามีการออกมาตรการเพื่อตอบสนองต่อการขยายตัวของธุรกิจชาเปียนในพื้นที่ชายแดนรวมถึงที่ชเวโก๊กโก โดยนับตั้งแต่มีการออกมาตรการพบว่าชาวต่างชาติโดยเฉลี่ย 20 คนเดินทางออกจากพื้นที่ในแต่ละวัน อย่างไรก็ตามบางส่วนยังคงเข้ามาผ่านช่องทางที่ผิดกฎหมายและเราจะจัดการส่งพวกเขากลับเช่นกัน
สำหรับชาวจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจการฉ้อโกงพบว่ามีการตั้งถิ่นฐานในกรุงเทพเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ชายแดนรายงานว่าการซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์และการเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทยกลายเป็นเรื่องยากขึ้นเนื่องจากกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นซึ่งถูกบังคับใช้โดยทางการไทยเพื่อต่อสู้กิจกรรมอาชญากรรม
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 