‘แสวง บุญมี’ เลขากกต.ยืนยันได้ สว. 200 คน ตามกรอบเวลาที่กำหนด โต้เสียงวิจารณ์นักวิชาการไปอ่านกฎหมายให้ชัดก่อน ชี้ในรธน.มาตรา 107 ชี้ชัดประชาชนไม่มีสิทธิ์ เพราะกำหนดให้เลือกกันเองตามกลุ่มอาชีพ ส่วนการฮั้วลง สว. ต้องผ่านการสืบสวนสอบสวนก่อน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ที่ห้องประชุมรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดสัมมนาเตรียมความพร้อมการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2567 ให้กับ ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด ผอ.สำนักงานกกต.ประจำจังหวัดทั่วประเทศ นายอำเภอ และผอ.สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต
@รับใบสมัครสว. แล้ว 1.7 หมื่นใบ
ช่วงหนึ่งนายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. ชี้แจงว่า หน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยเหมือนกระดูกสันหลัง หรือเส้นเลือดใหญ่ของการเลือกตั้ง ถือว่ามีประสบการณ์ และให้ความร่วมมือกับกกต.ในการจัดการเลือกตั้งระดับต่างๆมาต่อเนื่อง ส่วนการเลือก สว. ครั้งนี้ ถึงขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า จะมีผู้สมัครจำนวนเท่าไหร่ ข้อมูลจนถึงเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 67 มีคนรับใบสมัครไปแล้วประมาณ 1.7 หมื่นคน ดังนั้นภาระงานของผู้ปฏิบัติงานหน้างานจะมีมาก และยังมีหน้าที่ส่งศาลฎีกาเกี่ยวกับคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ถือเป็นภาระหนักเพราะเวลามีจำกัด อย่างไรก็ตามได้กำชับสำนักงานฯ ให้สนับสนุนผู้ว่า ฯ นายอำเภอเต็มที่ เชื่อว่า ด้วยการสนับสนุนของกระทรวงมหาดไทยจะทำให้การเลือกสว.สำเร็จเรียบร้อย
@โต้เสียงวิจารณ์ ยัน กกต. ทำตามรัฐธรรมนูญกำหนด
นายแสวง กล่าวอีกว่า ส่วนที่เป็นประเด็นมาร่วม 2-3 เดือน และทำให้คนในสังคมสับสน กกต.เจอสภาพนี้มาตลอด อย่างเช่น ที่มีนักวิชาการที่ไปให้ข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ ก็ไม่อ่านกฎหมายสักตัว แล้วพูดไปทำให้สังคมเกิดความสับสน ยืนยันว่า สิ่งที่กกต.ออกแบบนั้นเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เราก็ต้องทำตามกฎหมาย หากหลุดออกจากกฎหมายก็เข้าคุก เข้าตะราง
แม้จะบอก สว.ให้เป็นกลาง แต่มันก็เป็นการเมืองอยู่ดี ดังนั้นเมื่อมีการแข่งขัน มักไม่ได้พูดถึงความถูกต้อง แต่พูดถึงใครได้ใครเสีย แต่สำหรับ กกต.จะต้องพูดถึงความถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย แต่ที่สังคมสับสน ส่วนหนึ่งคือบรรดานักวิชาการ นักกฎหมายที่ไปพูดผ่านสื่อ ไม่อ่านกฎหมายสักตัวแล้วพูดให้สังคมสับสน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การเลือกสว.ครั้งนี้มีความซับซ้อน แต่หากพิจารณาและทำเป็นขั้นเป็นตอน ก็ถือว่าไม่ซับซ้อน
@รธน.มาตรา 107 ระบุชัด ‘ประชาชนไม่มีสิทธิ์’
“สว.ครั้งนี้ รัฐธรรมนูญมาตรา 107 ให้มาจากการเลือกกันเองจากผู้มีความรู้ประสบการณ์ ประวัติการทำงาน อ่านสองบรรทัดก็รู้แล้วว่าประชาชนไม่มีสิทธิ แต่การเลือกสว.นั้น ไม่ใช่การเลือกคนมาจากอนาคตเหมือนการเลือกสส. ที่อนุญาตให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ ว่า เมื่อเป็นแล้วจะทำอะไร แต่สว.ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่ในการออกกฎหมายต่างๆ ต้องการคนดี ซึ่งดูจากประวัติที่ผ่านมา ไม่ใช่ดูจากคำพูดว่า เข้าไปแล้วจะไปทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ ไม่ได้เลือกจากการแสดงวิสัยทัศน์ จุดยืนเหมือนนักการเมือง กกต.ก็ต้องมาออกแบบการเลือก ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด” นายแสวง กล่าว
ส่วนการแนะนำตัวของผู้สมัคร ขณะนี้ กกต.ได้แก้ไขระเบียบแนะนำตัวแล้ว สามารถแนะนำตัวผ่านสื่อโซเชียลทุกแพลตฟอร์มได้ แต่ต้องเป็นไปตามระเบียบแนะนำตัวตามแบบ สว.3 ขอให้ศึกษาระเบียบแนะนำตัวให้ชัดเจน ทั้งนี้ยอมรับว่าในการเลือก สว. ในครั้งนี้ ตนรู้สึกสบายใจ เพราะหลายคนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ และจะเข้าใจกฎหมาย กฎระเบียบต่างๆจากการศึกษาเอง แต่รายละเอียดบางอย่างจะต้องมีการซักซ้อมเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
@ยัน 200 สว.ได้ตามกรอบเวลา
นายแสวง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการป้องกันการฮั้ว เพิ่มเติมจากกรณียกคำวินิจฉัยของศาล ว่า คงไม่เกี่ยวกับทางกระทรวงมหาดไทยหรือ กทม. เพราะเป็นเรื่องของการทำให้การเลือกไม่บริสุทธิ์และเที่ยงธรรม ถือเป็นสำนวนเป็นคำร้อง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานในการที่จะป้องกัน การจัดตั้ง หรือการฮั้ว การออกเสียงเลือกสว.ก็ถือว่า เป็นส่วนหนึ่ง แต่ที่มาเล่าให้ที่ประชุมฟัง ก็เพื่อที่จะบอกว่า ไม่มีกระบวนการใด ที่จะหยุดยั้งให้เราไม่ได้ สว.200 คน ซึ่งความผิดดังกล่าวไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้ชัดเจน เพียงแต่บอกว่าในกระบวนการเลือก ทั้งผู้ว่าฯ นายอำเภอ ผอ.เขต ดูแลอยู่แล้วและจะรับผิดชอบโดยตรง และต้องวินิจฉัย แต่การทำให้การเลือกไม่สุจริตและเที่ยงธรรม หรือ การฮั้ว การซื้อเสียง ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งเป็นสำนวน อาจต้องใช้เวลา เพราะต้องสืบพยานบุคคล เพราะเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ มาประกอบการพิจารณา ไม่ใช่กระบวนการ ซึ่งเป็นวิธีการลงคะแนน วิธีการนับคะแนน ซึ่งเราจะวินิจฉัยทันที
เมื่อถามว่ามีประชาชนให้ความสนใจและมาขอรับใบสมัคร 17,000 คน สะท้อนอะไรหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า เราเฝ้าดูอยู่ เพราะยังมีเวลาจนถึงวันที่ 24 พ.ค. ซึ่งต้องดูว่าอีกประมาณ 10 กว่าวัน คนจะมาสมัครเพิ่มหรือไม่ ตอนนี้ยังคาดคะเนอะไรไม่ได้ แต่หากมีผู้มาสมัครน้อย ตามกฏหมายระบุว่า หากสมัครไม่ครบกลุ่ม ให้ดำเนินการเลือกตามมาตรา 19 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วย สว. และถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น
ส่วนที่กลุ่มผู้สมัคร สว. ไปยื่นศาลปกครองเรื่องระเบียบการแนะนำตัวของผู้สมัคร สว. และเตรียมนัดพิพากษาในวันที่ 24 พ.ค.นี้ มีแผนรองรับอะไรหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ต้องดูว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร ไม่อยากพูดเรื่องในอนาคตไปก่อนยืนยันว่า ตนไม่มีอะไรหนักใจในการเลือกสว.ชุดนี้ เพียงแต่มีคนอื่นหนักใจแทนเรา
@กล่าวหา ฮั้ว ต้องสืบสวนก่อน
เมื่อถามว่าเรื่องการฮั้วหากมีข้อมูลจะตัดไฟแต่ต้นลมได้หรือไม่ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า หากมีครบถ้วนสมบูรณ์ และสามารถวินิจฉัยได้เลย แต่เรื่องการฮั้ว ต้องอาศัยการสืบสวนสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าเป็นเรื่องกระบวนการ ก็จะเห็นทันที จะดำเนินการได้ง่ายกว่า ทั้งนี้เราอยากทำให้การสืบสวนสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นสำนวนในการทุจริต หรือกระบวนการ เราอยากทำให้เสร็จ เพื่อให้สะเด็ดน้ำในทุกอำเภอ เว้นแต่มีความซับซ้อน ในการหาพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และพยานบุคคล แต่ถ้ามีเพียงพอก็ดำเนินการได้เลย
นายแสวง ยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 17 พ.ค. กกต.จะจัดงาน คิกออฟ การเลือกส.ว.ที่จะเป็นการทำเอ็มโออยู่ร่วมกับสำนักข่าวไทยและกรมประชาสัมพันธ์ ในการรณรงค์และให้ความรู้เรื่องการเลือก สว.