ป.ป.ช.เผยความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'สำรวย พยอมใหม่' อดีตนายกเทศฯ บ้านใหม่ โคราช ออกคำสั่งให้พนักงานศึกษาดูงานด้านสาธารณสุขสิ่งแวดล้อมโดยมิชอบ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาลงโทษ จำคุก 6 เดือน ปรับ 2 หมื่น หลังรับสารภาพ รอลงอาญา 5 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นางสำรวย พยอมใหม่ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา กับพวก ออกคำสั่งให้พนักงานเทศบาลไปศึกษาดูงานด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ณ เทศบาลตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก โดยมิชอบ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 7 และ 12 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2565
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า นางสำรวย พยอมใหม่ จำเลยมีความผิดตามกฎหมาย ให้ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 40,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน และปรับ 20,000 บาท
โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 5 ปี ควบคุมความประพฤติไว้มีกำหนด 3 ปี รายตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน ทำงานบริการสังคมหรือสาธารณะประโยชน์เป็นเวลา 72 ชั่วโมง
หากผิดเงื่อนไขให้เปลี่ยนโทษจำคุกทันที
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2567 ลงมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ