‘เศรษฐา’ ป้อง ‘อุ๊งอิ๊ง’ หลังวิจารณ์ ‘แบงก์ชาติ’ เป็นอุปสรรคในการพัฒนาเศรษฐกิจ ย้ำเป็นอิสระจริง แต่ก็มีหน้าที่เพื่อประชาชนด้วย เตรียมประสาน ‘พิชัย ชุณหะวชิร’ คุยธปท.ต่อเนื่อง รับทราบปัญหาภัยแล้ง-พายุฤดูร้อนแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 5 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการจ.มหาสารคามและจ.ร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 5-6 พ.ค. 2567 โดยมีนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะ
ก่อนการเดินทาง นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาภัยแล้งว่า ได้รับรายงานเรื่องปริมาณฝนที่คาดว่าจะตกลงมาในช่วงฤดูฝนว่าปีนี้น่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา จึงได้หารือกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้บริหารจัดการน้ำให้ดีเพื่อผันน้ำไปให้กับเกษตรกร และช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีปัญหาทุเรียนที่สุกก่อนเวลา เพราะอากาศร้อน ซึ่งได้ขอความร่วมมือไปยังกองทัพ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทสส.ได้นำรถน้ำไปช่วยเหลือในจ.ชุมพร และกำลังจะขยายไปในพื้นที่อื่นๆ
ส่วนปัญหาพายุฤดูร้อนที่กำลังสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่จังหวัดภาคเหนือได้พูดคุยติดตามสถานการณ์ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อจัดงบประมาณไปช่วยเหลือ และยังคงพูดคุยอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบถึงความเดือดร้อนต่างๆ ทั้งนี้ยังมีการลับลอบเผาป่า จึงต้องพูดคุยอย่างต่อเนื่อง
@อุ๊งอิ๊ง แค่สะท้อนความต้องการประชาชน
เมื่อสื่อมวลชนสอบถามถึงกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดบนเวที “งาน 10 เดือนที่ไม่รอทำต่อให้เต็ม 10” ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีตอบว่า ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่าเรื่องดอกเบี้ยเป็นเรื่องสำคัญ เป็นรายจ่ายที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ดังนั้นที่ นางสาวแพทองธาร พูดเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนมากกว่า
“ส่วนตัวเข้าใจในความอิสระของแบงก์ชาติ และมั่นใจว่าทำงานร่วมกันและให้เกียรติมาโดยตลอด เมื่อมีข้อเรียกร้องจึงได้เรียกร้อง เมื่อต้องพูดคุยกันเรื่องดอกเบี้ยที่เห็นว่า ควรต้องปรับลดลง แต่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็มีเหตุผลที่จะไม่ปรับลด จากนี้รัฐบาลต้องเดินหน้าพูดคุยกับ 4 ธนาคารใหญ่เพื่อให้ลดดอกเบี้ยลง ซึ่งเชื่อว่าเป็นการทำงานยึดโยงกับประชาชนจากที่ลงพื้นที่รับฟังมาโดยตลอด ซึ่งในการลงพื้นที่จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดร้อยเอ็ดก็จะรับฟังปัญหานี้ต่อไป” นายเศรษฐาระบุ
@หาช่องคุยธปท.ต่อ ประสาน ‘พิชัย’ ร่วมด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความเป็นอิสระก็เรื่องหนึ่ง แต่ต้องไม่ลืมว่าการมาอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ สถาบันการเงิน นักการเมือง เรามาอยู่เพื่อประชาชน แต่วิธีการแก้ไขปัญหาแตกต่างกัน ทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ได้
นายเศรษฐากล่าวและย้ำว่า มีความกังวลกับทุกเรื่อง รวมถึงผลกระทบ จากความคิดเห็นที่เกิดขึ้น เพราะไม่อยากให้มีความขัดแย้ง จึงพยายามแก้ไขปัญหาในส่วนที่สามารถทำได้ เหมือนคำแนะนำที่ผู้ว่าฯธปท. ระบุว่า การประสานระหว่าง ธปท. กับรัฐบาลควรดำเนินการผ่านสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สคล.) หรือหน่วยงานของกระทรวงการคลัง ซึ่งต้องมีการพูดคุยกันต่อไป เพราะมีความเห็นแตกต่างกันชัดเจนเรื่องดอกเบี้ย เพราะการลดดอกเบี้ยแค่ 1 สลึงหรือ 50 สตางค์ก็มีส่วนช่วย ซึ่งวันนี้จะไปรับฟังปัญหาเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่กัดกร่อนสังคมไทยมานาน ดังนั้นวิธีการสื่อสารอาจแตกต่างกันไป แต่ยืนยันว่า รัฐบาลให้เกียรติทุกองค์กร
“หลังจากนี้จะมีการหารือกับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ว่าจะสามารถประสานพูดคุยกับ ธปท.ได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น เพราะหากขัดแย้งกันแล้วประชาชนเดือดร้อนก็จะไม่ดี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันแต่ก็มีวิธีอื่นที่สามารถประสานพูดคุยกันได้” นายกรัฐมนตรีระบุ
เมื่อถามว่า ประเด็นที่ฝ่ายค้านมองว่าเวทีของพรรคเพื่อไทยเป็นการบีบ ธปท. ให้เห็นด้วยกับรัฐบาล นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เคยบีบใคร เป็นแค่การสะท้อนความต้องการของประชาชน