ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สุรชาติ ตั้งวรชัย' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี กับพวก คดีที่ 2 จัดซื้อวัสดุหินคลุก ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาลงโทษ จำคุก 50 ปี พวก 3 ราย โดนคนละ 42 ปี 42 เดือน 840 วัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสุรชาติ ตั้งวรชัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี กับพวก คือ นางณัฏฐณิชา บัวสำลี หรือ นางณภัค บัวชลรัชต์ นายจักรกฤษณ์ ดวงจันทร์ หรือนายธนัยรัชช์ จันทร์ธนฉัตร์ และนายไว สำเร็จหวัง จัดซื้อวัสดุหินคลุกเพื่อนำมาใช้ในการซ่อมแซมผิวจราจรของถนนภายในหมู่บ้าน เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 โดยหลีกเลี่ยงวิธีการสอบราคา และเข้ามีส่วนได้เสียในสัญญาขายวัสดุหินคลุก ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 86 , 91 , 151 , 152 , 157 , 162 (4) พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 100 , 122 , 123/1 พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2554 มาตรา 65 ประกอบพ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 126 , 168 , 172 , 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2565
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นายสุรชาติ ตั้งวรชัย จำเลยที่ 1 , นางณัฏฐณิชา บัวสำลี หรือ นางณภัค บัวชลรัชต์ จำเลยที่ 2 นายจักรกฤษณ์ ดวงจันทร์ หรือนายธนัยรัชช์ จันทร์ธนฉัตร์ จำเลยที่ 3 และนายไว สำเร็จหวัง จำเลยที่ 4 มีความผิดตามกฎหมาย
2. จำเลยทั้ง 4 ให้การและนำสืบเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกระทงละหนึ่งในสาม
3. จำคุก นายสุรชาติ ตั้งวรชัย จำเลยที่ 1 กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 21 กระทง เป็นจำตุก 63 ปี 84 เดือน เมื่อรวมทุกกระทงแล้วคงจำคุก มีกำหนด 50 ปี
4. จำคุก นางณัฏฐณิชา บัวสำลี หรือ นางณภัค บัวชลรัชต์ จำเลยที่ 2 นายจักรกฤษณ์ ดวงจันทร์ หรือนายธนัยรัชช์ จันทร์ธนฉัตร์ จำเลยที่ 3 และนายไว สำเร็จหวัง จำเลยที่ 4 กระทงละ 2 ปี 2 เดือน 40 วัน รวม 21 กระทง คงจำคุกคนละ 42 ปี 42 เดือน 840 วัน
5. ข้อหาอื่นสำหรับจำเลยที่ 3 ให้ยก
ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2567 เห็นพ้องด้วยกับอัยการสูงสุด (อสส.) ที่จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน นายสุรชาติ ตั้งวรชัย กับพวกดำเนินการโครงการวางท่อระบายน้ำนอกเขตเทศบาล โดยไม่ขออนุญาตใช้พื้นที่จากชลประทานและเข้ามีส่วนได้เสียในสัญญาโครงการวางท่อระบายน้ำไปแล้ว