เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'โสรส เชตุสุวรรณ์' อดีตนายก อบต.หนองบ่มกล้วย อุทัยธานี เข้ามีส่วนได้เสียโครงการก่อสร้างระบบกรองน้ำประปาหมู่บ้าน ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาลงโทษ จำคุก 2 ปี 6 เดือน แต่ได้รอลงอาญา หลังเจ้าตัวรับสารภาพ - ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายโสรส เชตุสุวรรณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองบ่มกล้วย อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในการดำเนินโครงการก่อสร้างระบบกรองน้ำประปาหมู่บ้าน หมู่ที่ 8 ตำบลหนองบ่มกล้วย ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151,152,157 และ พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 ม.100 (1) ประกอบม.122 และ ม.123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 ม.126 (1) ประกอบม.168,172) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาว่า นาย โสรส เชตุสุวรรณ์ จำเลย มีความผิดตามกฎหมาย ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151
ลงโทษจำคุก 5 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน และปรับ 10,000 บาท
โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2566 มีมติไม่เห็นพ้องด้วยในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา เห็นควรอุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐเทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท