ซุ่มจับคาร้านกาแฟ! ป.ป.ช.-ตร.ขอนแก่น รวบผู้รับเหมาคดีอบต.บ้านดง จัดซื้อทิพย์โกงเงินหลวง

ป.ป.ช. ภาค 4 ประสาน ตร.ขอนแก่น รวบตัวผู้รับเหมาตามหมายจับคดีสนับสนุนอดีตนายกอบต.บ้านดง ทำผิดโครงการจัดซื้อจ้างทิพย์ รับเช็คโกงเงินหลวง ทำราชการเสียหาย หลังสืบข้อมูลทางลับ เจ้าตัวเข้ามาทำธุระในพื้นที่ แวะกินกาแฟ จึงวางแผนเข้าจับกุม เตรียมส่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกม.ต่อไป  

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2567 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ข่าวงานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น จับกุมตัว นางสาวยุนะภา ฐานะ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ฐานความผิดสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินโครงการจัดซื้อจัดจ้างทิพย์ รับเช็คโกงเงินหลวง หลังทำการสืบสวนจนทราบว่านางสาวยุนะภา ฐานะ ได้เดินทางมาทำธุระส่วนตัวในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยได้แวะรับประทานกาแฟที่ร้านกาแฟคาเฟ่ เดอฟอเรส สำนักงานป่าไม้ ถนนหน้าศูนย์ราชการ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เพื่อวางแผนเข้าจับกุม 

ระบุว่า วันนี้ (วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567) ภายใต้การอำนวยการของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 ของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น จับกุมนางสาวยุนะภา ฐานะ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 2/2567 ลงวันที่ 22 มกราคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสียและฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 ซึ่งสามารถดำเนินการจับตัวได้ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น

เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2551 นายเสถียรภาพ ภัทรสุขประเสริฐหรือประเสริฐสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง และนางอนัญพร ดวงศรี หัวหน้าส่วนการคลัง ได้ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายและฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงินและการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สั่งจ่ายเช็คธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง เลขที่ 0035188 ลงวันที่ 2 กันยายน 2551 จำนวน 99,000 บาท ให้แก่นางสาวยุนะภา ฐานะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 โดยไม่มีหลักฐานใด ๆ มาประกอบ และนางสาวยุนะภา ฐานะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 ซึ่งไม่มีหน้าที่และอำนาจในการจัดการทรัพย์สิน แล้วยังได้ช่วยเหลือและสนับสนุนนายเสถียรภาพฯ และนางอนัญพรฯ ในการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ด้วยการรับเอาเช็คไปเบิกถอนเงินแล้วเบียดบังเอาเงินทั้งหมดไปเป็นของตนเองหรือของผู้อื่นโดยทุจริต การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 ดังกล่าว ทำให้เกิดความเสียหายแก่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง

ทั้งนี้ ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านางสาวยุนะภา ฐานะ ได้เดินทางมาทำธุระส่วนตัวในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยได้แวะรับประทานกาแฟที่ร้านกาแฟคาเฟ่ เดอฟอเรส สำนักงานป่าไม้ ถนนหน้าศูนย์ราชการ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เพื่อวางแผนเข้าจับกุม โดยได้เดินทางไปซุ่มสังเกตการณ์ที่ร้านกาแฟคาเฟ่ เดอฟอเรส ดังกล่าว ต่อมาพบหญิงลักษณะรูปพรรณตรงตามหมายจับดังกล่าวเดินลงมาจากรถยนต์กระบะก่อนที่จะเข้าไปภายในร้านกาแฟ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจสอบยืนยันตัวบุคคลตามหมายจับ

จากการตรวจสอบและสอบถามรับว่าตนเองเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวนี้จริง และไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อนจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสียและฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ ซื้อ ทำจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86” และแจ้งสิทธิผู้ต้องหาให้ทราบ และควบคุมตัวนางสาวยุนะภา ฐานะ มาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่นเพื่อบันทึกการจับกุม และจักได้นำตัวส่งอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป

สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุทิ้งท้ายว่า  "ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด"