ป.ป.ช.ตรังชี้มูลอดีตนายกเทศฯ ต.ตลองปาง-ผอ.กองช่าง สมคบเอกชนทุจริตโครงการสนามกีฬา 4.99 ล.

ป.ป.ช.ตรังชี้มูล อดีตนายกเทศฯ ต.ตลองปาง-ผอ.กองช่าง-เอกชน รวม 6 ราย  เผยพฤติการณ์ทุจริตโครงการปรับปรุงสนามกีฬา 4.99 ล. สมคบกันกำหนดราคาปลูกหญ้าแพงเกินจริง กำหนดคุณสมบัติคู่สัญญญาเอื้อประโยชน์ หจก.วงศ์สวัสดิ์ก่อสร้าง แต่พอถึงเวลาทำงานจริงมีการใช้คนของเทศบาลแทนเอกชน แถมยังตรวจรับงานทั้งที่ยังไม่แล้วเสร็จ

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดตรัง นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วยนายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้มูลความผิดนายสมชาย ศรีวิรัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลคลองปาง อำเภอรัษฏา จังหวัดตรัง กับพวก ซึ่งทั้งหมดถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์เอื้อเอกชนในโครงการปรับปรุงสนามกีฬา (ถมดินและปลูกหญ้า) ของเทศบาลตำบลคลองปาง มูลค่า 4.99 ล้านบาท

 โดย ป.ป.ช.ได้ชี้มูลผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 6 ราย เป็นเจ้าพนักงานรัฐจำนวน 4 ราย และเอกชนจำนวน 2 ราย

ป.ป.ช.แถลงข่าวว่าจากการไต่สวนข้อเท็จจริง ในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างปรับปรุงสนามกีฬา (ถมดินและปลูกหญ้า) ของเทศบาลตำบลคลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง โดยมีการปรับปรุงสนามกีฬาพื้นที่กว้าง 140  เมตร ยาว 220 เมตร หนาประมาณ 0.30 เมตร งบประมาณ 4,990,000 บาท ปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการกำหนดคุณสมบัติของคู่สัญญาสูงเกินกว่าความเป็นจริงเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด วงศ์สวัสดิ์ก่อสร้าง ได้เข้ามาเป็นคู่สัญญาของหน่วยงานรัฐ

มีการกำหนดราคากลางในการถมดิน ปลูกหญ้าสูงกว่าความเป็นจริง มีการกำหนดราคาดินถุงแต่ไม่ใช้ดินถุง และมีการใช้เกณฑ์คำนวณค่า Factor f ผิดประเภท ทำให้มีราคาสูงขึ้น และ นายสมชาย ศรีวิรัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลคลองปาง ยังมีพฤติการณ์เข้าไปมีส่วนได้ ส่วนเสียในโครงการ โดยมีการเข้าไปจัดหาคน วัสดุ และดำเนินการตามสัญญาเอง โดยคู่สัญญาบริษัท วงษ์สวัสดิ์ก่อสร้าง จำกัด ไม่ได้เข้ามาดำเนินการ อีกทั้ง ยังมีการสั่งการให้ตรวจรับงานทั้งนี้ไม่เป็นไปตามรูปแบบรายการ และยังไม่แล้วเสร็จ และมีการเบิกจ่ายเป็นเท็จ

ทำให้ที่ประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ในกรณีกล่าวหาผู้ถูกกล่าวหาแต่ละราย ดังนี้การกระทำของนายสมชาย ศรีวิรัตน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็น  เจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 มาตรา 151 มาตรา 152 มาตรา 157 มาตรา 162 (1) (4) และมาตรา 309 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวย  แก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12

และฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ดำเนินกิจการเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าพนักงานของรัฐผู้นั้น ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าพนักงานของรัฐซึ่งมีอำนาจไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมในการกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี และฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 126 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 168 และมาตรา 172     

การกระทำของนายนรินทร์ ศรีทอง ตำแหน่งผู้อำนวยการกองช่างเทศบาล ต.คลองปาง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไข หรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดได้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงาน หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๑๗๒ และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่      

การกระทำของห้างหุ้นส่วนจำกัด วงศ์สวัสดิ์ก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 และนายสวัสดิ์ โอทอง หรือโกหวัด เจ้าของ หจก.วงศ์สวัสดิ์ก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาลนั้น ฐานเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต   และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 152 มาตรา 157และมาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 และ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 126 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 168และมาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86           

โดยให้กันนายปริตตะ ปานวุ่น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนางณัฐริตา หลวงคลัง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ซึ่งทั้งคู่เป็นเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ และเป็นกรรมการตรวจรับการจ้าง ไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ.2561

ทั้งนี้ได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด  เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี กับนายสมชาย ศรีวิรัตน์  นายนรินทร์ ศรีทอง ห้างหุ้นส่วนจำกัด วงศ์สวัสดิ์ก่อสร้าง และนายสวัสดิ์ โอทอง และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาโทษทางวินัย กับนายนรินทร์  ศรีทอง  และส่งสำนวนการไต่สวน และเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายสมชาย ศรีวิรัตน์ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 แล้ว