‘พล.ต.ท.ไตรรงค์’ นำทีม ‘ตร.-พฐก.’ ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้อาคาร ‘กระทรวงเกษตรฯ’ เผยต้นเพลิงอยู่บริเวณ ‘ห้องครัว’ ติดกับระเบียงนอกอาคาร -ด้าน รมช.ไชยาเผยห้องทำงานเสียหายเพราะน้ำที่ใช้ในการดับเพลิง แต่ย้ำเอกสารไม่เสียหาย
.........................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 4 ก.พ. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) ,พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบก.พฐก.สพฐ.ตร.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.สำเนียง โสธร รอง ผกก.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง และ พ.ต.ต.นรินทร์ เฟื่องศรี สว.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง เป็นต้น
ได้เข้าประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ ที่ชั้น 2 ของอาคารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในบริเวณพื้นที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขที่ 3 ถนนราชดำเนินนอก แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 18.23 น. ของวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา (อ่านประกอบ : ธรรมนัส’ รุดดู ‘เพลิงไหม้กระทรวงเกษตร’ เชื่อไม่ได้มาจากไฟฟ้าลัดวงจร)
จากนั้นพล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้นำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ทีมตรวจสถานที่เกิดเหตุ (CSI) พฐก. นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนักเคมี-ฟิสิกส์ พร้อมโดรน 1 ลำ และเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กรุงเทพมหานคร ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบอาคาร 4 ชั้น จุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ชั้น 2 ภายในห้องครัว พบว่าเพลิงได้ลุกไหม้ทำให้เกิดเสียหายหมดทั้งห้อง ก่อนจะลุกลามไปห้องน้ำ ฝ้าเพดาน และตู้ควบคุมระบบเครือข่ายอินทราเน็ต
นอกจากนี้ เพลิงยังลุกลามไปยังห้องประชุมย่อย และห้องคณะทำงานที่ปรึกษา นายไชยา พรหมา รมช.กระทรวงเกษตรฯ โดยมีพื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 20 ตารางเมตร ซึ่งรวมถึงเอกสารและโต๊ะทำงาน โซนห้องทำงานเก่าของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรฯ บริเวณฝั่งปีกซ้ายของอาคารด้วย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ต่อไป
สำหรับบรรยากาศด้านหน้ากระทรวงเกษตรฯนั้น เจ้าหน้าที่ รปภ. ได้ปิดประตูรอบอาคาร เพื่อไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน เว้นแต่เจ้าหน้าที่เท่านั้น โดยมีสื่อมวลชนเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณนอกรั้ว
พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้ซักถามพยานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบว่า ต้นเพลิงที่เกิดเหตุอยู่ที่บริเวณห้องครัวติดกับระเบียงด้านนอกอาคาร ซึ่งในวันเกิดเหตุมีพ่อบ้านกับช่างฉีดปลวกเข้ามาบริเวณอาคารดังกล่าว แต่ให้ปากคำว่าไม่ได้เข้าไปภายในห้องครัว จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. พนักงาน รปภ.เห็นควันไฟลอยออกมาจากห้องดังกล่าว จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่าเกิดเพลิงไหม้ และเข้าทำการดับไฟและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“วันนี้เป็นการลงพื้นที่ เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ จากนั้นจะรายงานผลการตรวจให้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป” พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าว
ต่อมาในช่วงเย็นวันที่ 4 ก.พ. นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ห้องประชุม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมเปิดเผยว่า หลังทราบเรื่อง ก็รีบเดินทางกลับจากราชการจาก จ.หนองบัวลำพู เพื่อจะเข้ามาตรวจจุดที่เกิดเพลิงไหม้ และห้องทำงานว่าได้รับความเสียหายมากน้อยแค่ไหน แต่เมื่อเดินทางมาถึงกลับไม่ได้เข้าด้านในเนื่องจาก เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาายังไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ แต่ก็ได้รับรายงานจากคณะทำงาน ว่าจุดที่เกิดเพลิงไหม้เป็นในส่วนของห้องครัว และห้องประชุมย่อย ซึ่งอยู่จะห่างจากห้องทำงานตนประมาณ 30 เมตร ทำให้ไม่มีเอกสารสำคัญใดเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ แต่ห้องตนได้รับผลกระทบจากน้ำที่ใช้ในการดับเพลิง ทั้งนี้ในห้องตนไม่มีเอกสารใดที่เป็นเอกสารสำคัญเป็นเพียงเอกสารที่ใช้ในการตรวจตราลงพื้นที่เท่านั้น ส่วนเอกสารสำคัญทางราชการเชื่อว่าน่าจะมีการเกร็ดไว้ในระบบ Cloud เพราะขนาดเอกสารส่วนตัวสำคัญของตนยังเก็บไว้ที่ตัว ไม่เก็บไว้ในห้องทำงาน / ส่วนเรื่องการตรวจสอบกล้องวงจรปิดนั้นถ้ามีก็ดีแต่ตนเกรงว่ากล้องวงจรปิดอาจจะเสียดังนั้นก็ต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานเป็นผู้ตรวจสอบ / แม้ว่าตอนนี้ตนไม่สามารถเข้าที่ทำงานได้ ก็ไม่ต้องเป็นห่วงตนสามารถเซ็นเอกสารที่ไหนก็ได้ ส่วนจะได้กลับเข้ามาทำงานที่ห้องทำงานเมื่อไหร่ก็ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเสร็จเสียก่อน
อ่านประกอบ :
ธรรมนัส’ รุดดู ‘เพลิงไหม้กระทรวงเกษตร’ เชื่อไม่ได้มาจากไฟฟ้าลัดวงจร