3 ป.รวบนายกเทศมนตรี ต.ชนบท จ.ขอนแก่ง เผยพฤติการณ์เรียกรับสินบน 30% โครงการ CCTV โซล่าเซลล์เป็นเงิน 3 แสนบาท จากวงเงินโครงการ 9.7 แสนบาท เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธข้อกล่าวหา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้มีการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์กรณีที่ ป.ป.ช.ได้ร่วมมือกับร่วมกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)บุกจับกุมนายกเทศมนตรี ต.ชนบท อ.ชนบท จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากมีพฤติการณ์เรียกรับเงินโครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ชนิดเครือข่ายไร้สาย โซล่าเซลล์วงเงินงบประมาณ 970,000 บาท
โดยเอกสารข่าวระบุว่าภายใต้การอำนวยการของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นาย ประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ นายธีรัตน์ บางเพ็ชร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต รักษาราชการผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดขอนแก่น นายธนิต สุวรรณากาศ หัวหน้ากลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. และสำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมดำเนินการจับกุม นายกเทศมนตรีตำบลชนบท จังหวัดขอนแก่น เรียกรับเงินจากผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้รับจ้างและเป็นคู่สัญญากับเทศบาล เป็นเงินสูงถึง 30% จำนวน 300,000 บาท อันถือเป็นเป็นการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ซึ่งอยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะดำเนินการ
สืบเนื่องจากสำนักงาน ป.ป.ช. โดยสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้รับจ้างและเป็นคู่สัญญากับเทศบาลตำบลชนบท ในโครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ชนิดเครือข่ายไร้สาย โซล่าเซลล์ จำนวน 2 โครงการ ซึ่งมีวงเงินจัดซื้อจัดจ้างโครงการละ 485,000 บาท รวมเป็นเงิน จำนวน 970,000 บาท หลังจากดำเนินการส่งมอบงานจ้างแล้วเสร็จ นายกเทศมนตรีตำบลชนบทมีการเรียกรับเงิน จำนวน 30% หรือ จำนวน 300,000 บาท เพื่อแลกกับการรับเช็คที่เป็นค่าจ้างงานในโครงการดังกล่าว และได้นัดหมายให้ผู้ประกอบการนำเงินสดมาให้ตน ในวันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 11.00 น. ณ เทศบาลตำบลชนบท
เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. และสำนักงาน ป.ป.ท. จึงได้ร่วมกันวางแผนจับกุม โดยมีการเฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งผู้ประกอบการที่ถูกเรียกรับเงินเข้าพบและนำเงินสดจำนวนดังกล่าวส่งมอบให้นายกเทศมนตรีฯ ที่ร้านกาแฟ ตามที่มีการเรียกรับเงิน หลังจากปรากฏพฤติการณ์ในการเรียกรับเงินดังกล่าวแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. และสำนักงาน ป.ป.ท. จึงได้แสดงตัวและเข้าจับกุมนายกเทศมนตรีฯ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นและตามมาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จากนั้นได้นำตัว นายกเทศมนตรีฯ ลงบันทึกจับกุมที่สถานีตำรวจในพื้นที่ และดำเนินการแถลงข่าว ณ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4
โดยมีนายธีรัตน์ บางเพ็ชร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต รักษาราชการผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดขอนแก่น รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ พ.ต.อ. ธณัชชนม์ เก่งกสิกิจ ผู้กำกับการ กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองกำกับการ 3 และนายจิรวัฒน์ สุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ท. เขต 4 ร่วมกันแถลงข่าว
ทั้งนี้ นายกเทศมนตรีตำบลชนบท เคยมีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการรายเดียวกันนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 เป็นเงินจำนวน 30,000 บาท โดยความผิดในครั้งดังกล่าวนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้มีการรับเรื่องร้องทุกข์และได้ขอออกหมายจับแล้ว จึงได้แสดงหมายจับและทำการจับกุมนายกเทศมนตรีรายดังกล่าว สำหรับความผิดดังกล่าวซึ่งเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระกับการกระทำความผิดกรณีการเรียกรับเงินในครั้งนี้ด้วย
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่าภายหลังจากการจับกุม ได้มีการแถลงข่าวผลการจับกุมเบื้องต้น โดยพ.ต.อ. ธณัชชนม์ เก่งกสิกิจ ตัวแทน ปปป.กล่าวถึงผลการจับกุมว่านายกเทศมนตรีคนดังกล่าวยังคงปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหาและยืนยันที่จะขอให้การเป็นเอกสารไม่ขอให้การใดๆ โดยตอนนี้นายกเทศมนตรีคนดังกล่าวอยู่ในการควบคุมตัวของ บก.ปปป.ที่กรุงเทพ
"สืบเนื่องจากเมื่อเดือน มิ.ย. มีการเรียกรับสินบน และเมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) เราก็ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลทุจริตประพฤติมิชอบที่ขอนแก่น ก็ได้รับหมายจับพร้อมหมายค้น และในวันนี้เราก็ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าจะมีการเรียกรับอีกสองโครงการก็เลยมีการร่วมบูรณาการขอหมายค้น ในการเฝ้าติดตามการกระทำความผิดในวันนี้มีการเรียกทรัพย์สินเดิมเรียกอยู่ที่ 3 แสนบาท แต่ว่าเรามีการให้เอาเงินจ่ายตามที่เรียกรับเพียงครึ่งหนึ่งซึ่งก็คือเงิน 1.5 แสนบาทไปให้กับผู้กระทำความผิด ซึ่งหลังจากที่ผู้กระทำความผิดรับเงินแล้ว เราก็แสดงตัวเข้าทำการจับกุม " พ.ต.อ. ธณัชชนม์กล่าว