ศาลรัฐธรรมนูญ อนุญาตขยายเวลาให้ 'พิธา' แจงคดีถือหุ้นสื่อ ITV ถึง 12 ธ.ค. 2566 และขยายให้ 'ก้าวไกล' แจงปมแก้กฎหมายยกเลิก ม.112 ถึง 18 ธ.ค. 2566
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2566 ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการพิจารณาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6)ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่ จากกรณีเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆอยู่ในวันสมัครรับเลือกตั้งสส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งคดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาและสั่งให้นายพิธา ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.นับแต่วันที่ 19 ก.ค. 2566 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
ต่อมานายพิธา ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชีระบุพยานเอกสาร พยานบุคคล พยานวัตถุ ฉบับลงวันที่ 2 ต.ค. 2566 และบัญชีระบุพยานบุคคลเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่18 ต.ค. 2566 โดยศาลได้อนุญาตตามที่นายพิธาขอขยายระยะเวลาจัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นล่วงหน้าโดยให้จัดส่งภายในวันอังคารที่ 12 ธ.ค.นี้ เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 64 วรรคหนึ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องสำเนาแก่คู่กรณีฝ่ายอื่นเพื่อทราบก่อนวันนัดไต่สวนไม่น้อยกว่า 7 วันจากนั้นอภิปรายเตรียมการไต่สวนในวันพุธที่ 20 ธ.ค.นี้ เวลา 9.30 น.
ส่วนคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของพระพุทธะอิสระ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่าการกระทำของนายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้น ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ. ...เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่
สำหรับคดีอยู่ในระหว่างศาลรัฐธรรมนูญให้พยานบุคคลของผู้ถูกร้องทั้งสองและพยานผู้เชี่ยวชาญจัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับหนังสือซึ่งพยานบุคคลของผู้ถูกร้องทั้งสองยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 4 พ.ค. 2566 ขอขยายระยะเวลายื่นบันทึกถ้อยคำข้อเท็จจริงหรือความเห็นออกไปอีก 10 วันนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายแล้วอนุญาตให้ขยายระยะเวลาถึงวันจันทร์ที่ 18 ธ.ค. และกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อในวันพุธที่ 20 ธ.ค. เวลา 9.30 น ก่อนที่จะมีการไต่สวนพยานบุคคลในวันจันทร์ที่ 25 ธ.ค. 2566 เวลา 9.30 น.
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังแจ้งด้วยว่าการไต่สวนพยานบุคคลในทั้ง 2 คดีดังกล่าวคือวันที่ 20 ธ.ค. และ 25 ธ.ค.นี้ ศาลอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีและบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้นเข้าร่วมรับฟังการไต่สวน