กต.อินโดฯเผยข้อมูล ไทย-กัมพูชา ปลายทางเหยื่อถูกสแกมเมอร์หลอกลวงจ้างงานมากที่สุด ชี้เหยื่ออินโดฯส่วนมากอายุน้อยแค่ 18-35 ปี แต่ถูกล่อลวงด้วยโฆษณาอ้างเงินเดือนสูง ต้องการทำงานกับหนุ่มสาว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวสถานการณ์ฉ้อโกงในไทยที่ส่งผลกระทบในต่างประเทศว่าเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวในประเทศอินโดนีเซียได้รายงานข่าวกรณีการหลอกลวงไปทำงานที่ประเทศโดยผิดกฎหมายว่าแม้ว่าเรื่องนี้จะปรากฎกรณีตัวอย่างให้เห็นอย่างมากมาย แต่ข้อเท็จจริงก็คือผู้คนจากอินโดนีเซียในภูมิภาคต่างๆยังคงตกเป็นเหยื่ออยู่เรื่อยๆ และก็อยู่ในช่วงอายุที่น้อย
โดยนายจูดา นูกราฮา ผู้อํานวยการฝ่ายคุ้มครองพลเมืองอินโดนีเซียประจํากระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าทีมงานของเขาพบว่านับตั้งแต่ปี 2563 กรณีการหลอกลวงฉ้อโกงหรือสแกมทางออนไลน์พบว่าเริ่มเกิดบ่อยขึ้นและข้อมูลค่อนข้างน่าประหลาดใจมาก
“ณ เดือนพฤศจิกายน 2566 เราบันทึกว่าประชาชนอินโดนีเซีย 3,300 คนตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงทางออนไลน์ เกรงว่าข้อมูลนี้จะเพิ่มขึ้นจนถึงสิ้นปี 2566” นายจูดากล่าว
นายจูดากล่าวอีกว่าผู้ที่จกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง หลอกลวงทางออนไลน์นั้นอยู่ในช่วงอายุที่น้อยและมีวุฒิการศึกษาเพียงพอ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องโชคร้ายมากที่พวกเขาต้องตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมเช่นนี้
“เหยื่อส่วนมากเป็นผู้ชาย และก็มีผู้หญิงบ้างแต่ไม่มากนัก โดยจะมีช่วงอายุตั้งแต่ 18-35 ปี” นายจูดากล่าว
โดยประเทศกัมพูชาและประเทศไทยเป็น 2 ใน 8 ประเทศที่แรงงานข้ามชาติอินโดนีเซียได้เข้าไปทำงานโดยไม่ผ่านขั้นตอนปกติ ซึ่งสาเหตุก็เป็นเพราะการล่อลวงว่าจะให้เงินเดือนที่สูงและมอบโอกาสการทำงานให้กับคนหนุ่มสาว ผู้เป็นเหยื่อจึงมีความสนใจที่จะไปทำงานต่างประเทศ
“เราขอให้คนรุ่นใหม่ระวังบุคคลที่เสนอเงินเดือนสูง แต่ด้วยเงื่อนไขและทักษะที่ง่ายๆเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อรายต่อไปของการหลอกลวงออนไลน์”นายจูดากล่าว
เรียบเรียงจาก:https://www.suarakalbar.co.id/2023/12/kamboja-dan-thailand-tujuan-utama-generasi-muda-indonesia-mencari-rejeki/