'เทพไท-มาโนช เสนพงศ์' ได้พักโทษ ราชทัณฑ์ปล่อยตัว 6 พ.ย. 2566 ภายใต้เงื่อนไขใส่กำไล EM 8 เดือน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2566 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า นายครรชิต เสนพงศ์ น้องชายของนายเทพไท เปิดเผยว่า หลังจากนายเทพไทและนายมาโนช เสนพงศ์ ได้ถูกจำคุกในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช มาเป็นเวลา 16 เดือนแล้ว และเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษหลังถูกจำคุกมาแล้ว 2 ใน 3 ตนเองและญาติๆ ได้รับแจ้งจากกรมราชทัณฑ์ว่า ในวันที่ 6 พ.ย. 2566 เวลา 09.00 น. ทางเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช จะมีการปล่อยตัว นายเทพไท และนายมาโนช เสนพงศ์ พร้อมกันทั้ง 2 คน โดยมีเงื่อนไขต้องใส่กำไล EM ที่ข้อเท้าเป็นเวลา 8 เดือน ซึ่งข่าวดังกล่าวสร้างความดีใจให้ญาติๆ คนในครอบครัวในตระกูลเสนพงศ์ รวมทั้งพรรคพวกเพื่อนฝูงต่างดีใจ
นายครรชิต ระบุว่า ในพรุ่งนี้ทางญาติ ๆ และกองเชียร์และชาวบ้านจำนวนมากจะเดินทางไปรับนายมาโนชและนายเทพไท ออกจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชด้วยความคึกคักแน่นอนเพราะนายเทพไท มีคนที่รักใคร่จำนวนมาก และทราบจากนายเทพไท ว่าหลังจากเสร็จขั้นตอนใส่กำไล EM แล้ว และออกจากเรือนจำแล้วทราบว่านายเทพไทและนายมาโนช เสนพงศ์ พี่ชายของตนเองจะวิ่งออกจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช มุ่งหน้าสู่บ้านพักที่สี่แยกหัวถนนศาลามีชัยระยะทาง 10 กม.เพื่อเป็นการแก้บนอีกด้วย
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2565 ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ 174/2562 หมายเลขแดงที่ 485/2563 มี นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ สส.นครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายกอบจ.นครศรีธรรมราช จำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พี่ชายนายมาโนชจำเลยที่ 2 คดีกระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 ซึ่งศาลฎีกาได้พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นเวลา 2 ปี และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี ก่อนถูกคุมตัวไปจำคุกที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช