ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน 'ถนอมพงศ์ หลีกภัย' สส.ตรัง พรรครวมไทยสร้างชาติ ทรัพย์สินกว่า 13 ล้าน มีที่ดิน 3 แปลง สะสมอาวุธปืน รายได้ 8.5 แสน/ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของ นายถนอมพงศ์ หลีกภัย กรณีเข้ารับตำแหน่ง สส.ตรัง เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566
โดยนายถนอมพงส์ พร้อมด้วย นางวิลาวัลย์ หลีกภัย คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 13,331,622 บาท หนี้สิน 2,576,288 บาท
นายถนอมพงศ์ แจ้งมีทรัพย์สิน 5,258,640 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 226,866 บาท ทั้งหมด 8 บัญชี
ที่ดิน 3 แปลง 1,400,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดินใน อ.เมือง จ.ตรัง โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4 รายการ 1,900,000 บาท เป็นบ้าน 4 หลังใน จ.ตรัง
ยานพาหนะ 30,000 บาท เป็นรถยนต์ 1 คัน สิทธิและสัมปทาน 1,361,774 บาท เป็นประกันชีวิต
และทรัพย์สินอื่น 340,000 บาท เป็นอาวุธปืน 7 กระบอก
หนี้สิน 1,288,144 บาท เป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 821,776 บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 466,368 บาท
นางวิลาวัลย์ แจ้งมีทรัพย์สิน 8,072,982 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 608,134 บาท ทั้งหมด 10 บัญชี
ที่ดิน 8 แปลง 2,780,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดินใน อ.เมือง จ.ตรัง โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 5 รายการ 2,450,000 บาท เป็นบ้าน 5 หลังใน จ.ตรัง
ยานพาหนะ 1,205,000 บาท เป็นรถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน สิทธิและสัมปทาน 909,848 บาท เป็นประกันชีวิต
และทรัพย์สินอื่น 120,000 บาท เป็นอาวุธปืน 2 กระบอก
หนี้สิน 1,288,144 บาท เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 821,776 บาท และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 466,368 บาท
ทั้งนี้ นายถนอมพงศ์ แจ้งมีรายได้ต่อปี 850,440 บาท เป็นเงินเดือน 772,440 บาท ค่าเช่า 30,000 บาท การทำสวนยาง และสวนปาล์ม 48,000 บาท ส่วนรายจ่ายต่อปี 621,892 บาท
นางวิลาวัลย์ แจ้งมีรายได้ต่อปี 688,808 บาท เป็นเงินเดือน 648,808 บาท และค่าเช่า 40,000 บาท ส่วนรายจ่ายต่อปี 454,892 บาท
นายถนอมพงศ์ แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 546,480 บาท
นางวิลาวัลย์ แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 648,808 บาท
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 