
สื่อมาเลย์ฯเผยข้าวไทย แหล่งรายได้หลักขบวนการลักลอบรัฐกลันตัน เผยผู้บริโภคท้องถิ่นชอบข้าวไทยมาก เพราะมีรสดี แม้ราคาพุ่งแต่ความต้องการไม่ลดลง ขณะร้านค้าปลีกรับขายข้าวลักลอบนำเข้าเป็นเรื่องผิด แต่ทำกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับขบวนการลักลอบขายข้าวไทยในต่างแดนว่าสำนักข่าวฟรีมาเลเซียได้รายงานว่าพบข้อมูลว่าชาวกลันตันส่วนใหญ่เลือกซื้อข้าวที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศไทย โดยบางคนอ้างว่าข้าวไทยมีกลิ่นหอมและรสชาติดีกว่าข้าวที่ผลิตในท้องถิ่น
โดยหนังสือพิมพ์ Utusan Malaysia รายงานข่าวอ้างว่าข้าวไทยประมาณกว่า 50,000 ตัน ถูกซื้อเข้ามายังรัฐกลันตันในทุกสัปดาห์ ซึ่งทุกยี่ห้อข้าวไทยต่างมีความต้องการในพื้นที่ที่สูง
หนังสือพิมพ์ระบุอีกว่าผู้อยู่อาศัยจำนวนกว่า 1,000 ราย ที่อยู่บริเวณริมชายแดนไทย-มาเลเซีย มีรายได้หลักจากการนำเอาข้าวจากประเทศไทยขาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการลักลอบขาย
โดยผู้ลักลอบรายหนึ่งที่ระบุชื่อตัวเองว่านายลองในวัย 47 ปีกล่าวว่าเขาลักลอบนำเข้าข้าวจากไทยเป็นปริมาณ 500-600 กิโลกรัม ในทุกๆวัน แม้ว่าราคาข้าวไทยตอนนี้จะขึ้น แต่ความต้องการในพื้นที่ก็ไม่ลดลงแม้แต่น้อย
“ผมมักจะได้ยินผู้บริโภคบ่นว่าต้องจ่ายมากขึ้นเพราะค่าเงินริงกิตลดลง แต่พวกเขาก็ยังต้องการข้าวไทย เพราะเป็นวัตถุดิบหลักสําหรับชาวกลันตันมาหลายปีแล้ว” นายลองกล่าว
ส่วนผู้ค้าปลีกอีกรายในอำเภอตุมปัต ซึ่งระบุชื่อตัวเองว่านางรอส กล่าวว่าข้าวไทยในหลายยี่ห้อยังคงขายดีต่อไป แต่กลับไม่มีความต้องการซื้อข้าวท้องถิ่นมากนัก แม้แต่ตัวเธอก็ยอมรับว่าถ้าให้เลือก คงจะเลือกข้าวจากประเทศไทยมากกว่าเพื่อว่าคุ้นชินกับความอร่อยของมัน
“ฉันรู้ว่าการขายข้าวที่ลักลอบนําเข้าจากประเทศไทยนั้นผิด แต่นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ นี่เป็นแหล่งรายได้สําหรับผู้ค้าในรัฐนี้มาหลายชั่วอายุคน” นางรอสกล่าว
ส่วนผู้บริโภครายหนึ่งที่ระบุชื่อว่านางรามลาห์ วัย 50 ปี กล่าวว่าเธอกินข้าวที่ลักลอบนำเข้ามาตั้งแต่ยังเด็ก และอ้างว่าข้าวไทยมีรสหวานกว่าข้าวท้องถิ่นและมีกลิ่นหอมและน่ารับประทานมากกว่า

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา