ตั้ง‘วัชรินทร์’อัยการ FBI นั่งหัวหน้าชุดสอบสวน คดี‘ผู้การชลบุรี’ เรียกเป้ 140 ล.

เปิดชื่อคณะทำงานอัยการ ‘กุลธนิต’อธ.อัยการสอบสวน เซ็นตั้ง ‘วัชรินทร์’อัยการเอฟบีไอ นั่งหัวหน้าชุด 10 อรหันต์อัยการสอบสวน กำกับดูเเลการสอบสวนชุด’บิ๊กโจ๊ก’ทำคดีผู้การชลฯกับพวกเรียกเป้ 140 ล้าน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2566 นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ได้มีคำสั่งสำนักงานการสอบสวน ที่ 27/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ดดีระหว่าง นายธนินวัฒน์ หรือเป้ อุดมเชาวเศรษฐ์ กับพวกรวม 6 คน กล่าวหา พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประกากรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กับพวกรวม 10 คน ผู้ต้องหา ความว่า

ตามที่อัยการสูงสุด ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 21 ส.ค.66 ให้สำนักงานการสอบสวนตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 คดีอาญาที่ 737/2566ของ สภ.อ.คูคต จังหวัดปทุมธานี คดีระหว่าง นายธนินวัฒน์ หรือเป้ อุดมเชาวเศรษฐ์ กับพวกรวม 6 คน ผู้กล่าวหา พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จ.ชลบุรี กับพวกรวม 10 คน ผู้ต้องหาในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตน หรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญ หรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น และร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย

เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจ มีผู้ร่วมกระทำ ความผิดหลายคน ผู้กระทำความผิดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนทั่วไป คดีมีความยุ่งยากซับซ้อนเพื่อให้การตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตามมาตรา 31 พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นธรรม จึงแต่งตั้งพนักงานอัยการคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน คดีอาญาที่ 737/2566 ของสถานีตำรวจคูคต ดังนี้

1. นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน

2. นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงาน

3. อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 4 เป็นคณะทำงานและเลขานุการ

4. นางนาตยา สาลักษณ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 4 เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ

5. นายฉัทปณัย รัตนพันธ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 เป็นคณะทำงาน

6. ร.ต.ท.โสภณ เกษมพิบูลย์ไชย อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 คณะทำงาน

7. นายธรรมรงค์ชัย วงษ์สวัสดิ์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 เป็นคณะทำงาน

8. น.ส.วิลาสินี ศุภวิรัชบัญชา อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ

9. ร.ต.อ.อมตะ ชนะพงษ์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 เป็นคณะทำงาน

10. นายธนาธิป นวรัตนวรกุล อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3เป็น คณะทำงาน

11. นายเทพสิทธิ์ เกียรติเดชปัญญา อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 เป็นคณะทำงาน

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยให้ดำเนินการเข้าตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนในทันทีให้เป็นไปตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2566 แนวทางปฏิบัติว่าด้วยการดำเนินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย โดยเคร่งครัด และให้รายงานการดำเนินการให้อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ทราบเป็นระยะจนกว่าการสอบสวนแล้วเสร็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันอังคารที่ 29 ส.ค.ทางคณะทำงานพนักงานอัยการที่กำกับดูเเลการสอบสวนจะมีการเรียกประชุมร่วมกับชุดพนักงานสอบสวนของพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ

สำหรับนายวัชรินทร์ หัวหน้าคณะทำงานกำกับควบคุมดูแลการสอบสวนคดีนี้ เป็นถือเป็นอัยการมือสอบสวน ฝีมือดีเคยได้รางวัลอัยการดีเด่น จบหลักสูตรเอฟบีไอ จากสหรัฐฯ มีผลงานการสอบสวนคดีสำคัญหลายคดี