ป.ป.ช.ตรัง จับมือ ป่าไม้ ตรวจรีสอร์ตบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะมุก ปลูกสร้างบนภูเขา ติดทะเล หลังศาลมีคำพิพากษาสั่งให้รื้อถอน แต่ผ่านมา 3 ปียังคงไม่รื้อถอนตามคำสั่งศาล พบมีการซ่อมแซมปรับปรุงเพิ่มเติม จี้ ป่าไม้ ดำเนินการตามกฎหมายเร่งด่วน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2566 นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ ป.ป.ช.ตรัง ได้เชิญ นายกมลวัฒนา ยังสังข์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตง 2 วังวิเศษ สิเกา ตำแหน่ง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบการบุกรุกป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติ ก่อสร้างและดำเนินกิจการรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หาดฝรั่ง บนเกาะมุก พื้นที่ หมู่ 2 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง
หลังจากศาล จ.ตรัง ได้มีคำพิพากษาความอาญาเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2563 ในคดีหมายเลขดำที่ อ 1416/2562 ในคดีหมายเลขแดงที่ อ 77/2563 ให้นายชอบ ทวนดำ หรือโกยาว (จำเลย) ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการดังกล่าวและเป็นคนในพื้นที่เกาะมุก ให้จำเลย คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน หรือบริวารจำเลยออกไปจากที่ดินที่กระทำผิดและให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือนำสิ่งใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติออกด้วย และจำคุกให้รอลงอาญานายชอบฯ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย จำนวน 12,283.95 บาทแก่รัฐ แต่ปรากฏว่าระยะเวลาหลังจากศาลมีคำสั่งให้รื้อถอนแล้วนั้น ผ่านมาเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี ทางเจ้าของกิจการและหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบยังคงไม่มีการเข้าดำเนินการรื้อถอนแต่อย่างได
ซึ่งลักษณะทางกายภาพ พบว่ามีการก่อสร้างอยู่บนภูเขาติดกับชายหาด มีห้องพักถาวรประมาณ 5 หลัง มีที่สถานที่ต่างๆปลูกสร้างขึ้นมาจำนวนมาก มีการทำบันได และก่อปูนซีเมนต์ ทำเป็นทางเดิน ซึ่งสถานที่มีทิวทัศน์งดงามอยู่บนภูเขาสูงชัน ติดทะเล และชายหาด เหมาะแก่การพักผ่อน และมีอุปกรณ์การก่อสร้างที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างหรือปรับปรุงเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง
ที่ผ่านมานั้นนายสมนึก กุนหลัด เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตง 2 วังวิเศษ สิเกา (ขณะนั้น) ได้ดำเนินการนำป้ายคำสั่งศาลมาติดตั้งและแจ้งให้ทราบตามคำสั่งมาแล้วหลายครั้ง แต่มีการถูกทำลาย พร้อมทั้งได้มีการตรวจยึด และแจ้งตามบันทึกว่าผู้ยึดถือครอบครองไม่ใช่คนยากไร้ ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 2559 และพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะมุก คำนวณเนื้อที่ป่าที่ถูกบุกรุก 0-0-72 ไร่
นายกมลวัฒนา ยังสังข์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตง 2 วังวิเศษ สิเกา ตำแหน่ง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน (ปัจจุบัน) กล่าวว่า ตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งมาเมื่อไม่กี่เดือน แต่ก็ได้ไปดูคำสั่งของศาล ก่อนจะประมวลเรื่องและเข้ามาตรวจสอบพื้นที่ และได้รายงานไปให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราช ทราบว่า พื้นที่ยังไม่ได้มีการดำเนินการรื้อถอนตามคำพิพากษาของศาล และพบว่าไม่ได้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพัก อาจจะมีเพียงแค่คนงานพักอาศัยอยู่ หลังจากนี้ก็จะประมวลเรื่องส่งให้สำนักฯ ให้สำนักฯ เป็นผู้ประสานกับกรมป่าไม้ เพื่อที่จะบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลต่อไป
นายกมลวัฒนา กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุที่ผ่านมา 3 ปี หลังจากมีคำสั่งศาลแต่ยังไม่มีการหรือถอนนั้น เนื่องจากหน่วยงานตนนั้นเป็นหน่วยงานในระดับพื้นที่ ซึ่งไม่ได้มีอำนาจเต็มที่จะเข้ามาให้รื้อถอนเต็มตามคำพิพากษาของศาล เรามีเพียงอำนาจประมวลเรื่อง ส่งไปยังสำนักฯ เพื่อที่จะให้กรมป่าไม้มีคำสั่งลงมาให้ปฎิบัติตามกฎหมาย โดยพื้นที่ตรงนี้หลักๆก็มี กรมป่าไม้ และอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ดูแลและรับผิดชอบ
ขณะที่ นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง กล่าวว่า สำหรับเรื่องนี้ศาลได้มีคำพิพากษาให้รื้อถอน ป.ป.ช.ก็ติดตามผลของคำพิพากษาว่ามีการรื้อถอนแล้วหรือไม่อย่างไร เมื่อมาตรวจสอบก็ได้รับทราบข้อมูลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบว่าอยู่ในขั้นตอนของขบวนการที่ได้เสนอไปยังกรมป่าไม้ เพื่อที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของทางระเบียบราชการ หลังจากนั้นก็จะมีการรื้อถอนตามขบวนการต่อไป
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่าที่พักยังมีการซ่อมแซมปรับปรุงเพิ่มเติม แต่จากการสอบถามบุคคลในพื้นที่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่ได้มีการเปิดให้เช่าแล้ว ตั้งแต่ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามในรายละเอียดต่างๆ ป.ป.ช.ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวบรวมข้อมูลทั้งหมด เพื่อรายงานกลับมายัง ป.ป.ช.จ.ตรัง และได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัดอย่าให้มีความบกพร่อง ส่วนการที่ศาลมีคำพิพากษาให้รื้อถอนมาถึง 3 ปี แต่ยังไม่มีการรื้อถอนนั้นตนก็ขอดูข้อมูลก่อนว่าจะมีการปล่อยปละละเลยหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐหรือไม่อย่างไร.