ป.ป.ช.เผยความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'ฐนันดร อุดมสินค้า' อดีตนายก อบต.ลุ่มสุ่ม จ.กาญจนบุรี กรณีออกคำสั่งให้งดการเบิกจ่าย-ค่าจ้าง-เลิกสัญญาจ้าง พนง.โดยมิชอบ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี แต่ได้รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายฐนันดร อุดมสินค้า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี มีคำสั่งให้งดการเบิกจ่าย และค่าจ้าง รวมถึงบอกเลิกสัญญาจ้างพนักงานจ้างโดยมิชอบ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาว่า นายฐนันดร อุดมสินค้า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 157
จำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามมาตรา 78 กึ่งหนึ่ง
คงจำคุก 1 ปี ปรับ 10,000 บาท
พิเคราะห์พฤติการณ์การกระทำความผิดและรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยแล้ว เห็นว่า แม้การกระทำความผิดของจำเลยจะมีลักษณะลุแก่อำนาจ แต่ความเสียหายไม่มากนักและอยู่ในวงจำกัด
เมื่อจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งประกอบอาชีพสุจริต การให้โอกาสแก่จำเลยกลับตัวประพฤติตนเป็นพลเมืองดีน่าจะเป็นประโยชน์แก่จำเลยและสังคมมากกว่าต้องโทษจำคุก
โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ให้คุมความประพฤติของจำเลยไว้มีกำหนด 1 ปี
ให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ตามเงื่อนไขและกำหนดระยะเวลาที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรกับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา12 ชั่วโมง มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการ มาตรา 29 , 30
ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อนั้น เนื่องจากศาลรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยไว้จึงไม่อาจนับโทษต่อได้
ให้ยกคำขอ
อย่างไรก็ดี คดีนี้ ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบตามที่อัยการสูงสุด (อสส.) หารือไม่อุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง