ปชป.ประชุมเลือกหัวหน้า-กก.บริหารพรรค ล่มอีก เหตุสมาชิกไม่ครบองค์ประชุมขั้นต่ำ 250 คน ขณะ 'เฉลิมชัย' ชี้เป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายมาก แฉมีบางกลุ่มตั้งใจให้ประชุมล่ม โดยไม่ให้องค์ประชุมลงชื่อหรือให้ไปเที่ยวลาว ลั่นขอให้เป็นครั้งสุดท้ายเพราะพรรคการเมืองเสียหายมาก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 6 ส.ค. พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่2 ประจำปี 2566 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ เพื่อเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่และเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ โดยมีการนัดหมายสมาชิกให้มาร่วมประชุมตั้งแต่เวลา 08.30 น. แต่ปรากฎว่าสมาชิกเดินทางมาร่วมประชุมอย่างบางตา และเริ่มคึกคักเมื่อใกล้เวลาเปิดประชุมเวลา 09.30 น. ซึ่งมีแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุม อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค และอดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 3คน ทั้งนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมทั้งแกนนำพรรค สส.อดีตสส.และสาขาพรรค ที่เป็นองค์ประชุม โดยแต่ละคนได้กล่าวทักทายและพูดคุยกันอย่างปกติ และยังเชื่อว่าการประชุมน่าจะดำเนินไปได้อย่างปกติ
แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงกำหนดเริ่มประชุม น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ผอ.พรรคได้แจ้งว่าขณะนี้มีองค์ประชุม210คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม เพราะตามข้อบังคับพรรคจะต้องมีองค์ประชุม 250คนขึ้นไป ดังนั้นขอให้รอสมาชิกที่กำลังเดินทางมาร่วม ประชุมก่อน
ต่อมาเวลา 10.36น. น.ต.สุธรรมได้แจ้งต่อที่ ประชุมว่าเราได้รอสมาชิกมาเป็นเวลา1 ชั่วโมงแล้ว แต่มีสมาชิกมาร่วมประชุม 223คน จึงถือว่าไม่ครบองค์ประชุม จึงไม่สามารถครบองค์ประชุมได้ จึงขออนุญาตนำเรื่องนี้ไปหารือกับรักษาการกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาวันเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง ต้องขออภัยสมาชิกทุกท่านด้วย จากนั้นสมาชิกส่วนหนึ่งได้แยกย้ายเดินทางกลับ ขณะที่บางส่วนยังคงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงการประชุมล่มกันอย่างเคร่งเครียด
พอถึงเวลา 11.00 น.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้แถลงหลังเกิดเหตุการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคล่ม เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ว่า เป็นพฤติกรรมเลวร้ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำประกาศอุดมการณ์ของพรรค ข้อที่1พรรคจะดำเนินการโดยวิถีทางอันบริสุทธิ์ แต่ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้กับพรรคอย่างมาก การที่องค์ประชุมไม่ครบทั้ง 2 ครั้งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เกิดโดยธรรมชาติ แต่เกิดจากพฤติกรรมของกลุ่มคนบางกลุ่ม ซึ่งตนขอโทษสมาชิกพรรคด้วย มีการให้องค์ประชุมออกจากห้องประชุม ไม่ให้ลงชื่อเป็นองค์ประชุม มีการให้องค์ประชุมไปเที่ยวประเทศลาวเพื่อไม่ให้มาประชุม ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่เลวทรามไม่น่าเกิดขึ้นในพรรคที่เป็นสถาบันทางการเมือง
“เชื่อว่ากลุ่มคนดังกล่าวรู้ว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ แต่ขอให้มีจิตสำนึก เชื่อว่าถ้าจิตสำนึกกลับคืนมาพรรคจะเดินหน้าได้ พรรคมีระเบียบ มีข้อบังคับ ไม่สามารถทำอะไรโดยลำพัง ทำอะไรโดยมีความคิดส่วนตัวได้ ประชาธิปัตย์มีกฎข้อบังคับ แต่ทุกวันนี้หลายคนฉีกกฎข้อบังคับเอง ซึ่งจะทำให้ประชาธิปัตย์เสื่อมถอย สมาชิกส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมส่วนนี้ วันนี้ผมขอประณาม ถ้ามีจิตสำนึกที่เพียงพอขอให้กลับมาช่วยทำให้พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าต่อไปได้ ไม่ใช่เล่นเกมการเมืองเพื่อหวังตอบสนองความต้องการของใครบางคน” นายเฉลิมชัย ระบุ
นายเฉลิมชัย ย้ำว่าพร้อมจะวางมือทางการเมือง และเคยยื่นขอเสนอไปว่าถ้าตนเป็นอุปสรรคต่อพรรค ขอให้ที่ประชุมดำเนินการตามข้อบังคับพรรค ทั้งนี้ ใครที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคขอความกรุณาไม่ต้องแสดงความคิดเห็น และทราบหรือไม่ว่าการประชุมใหญ่พรรคในแต่ละครั้งใช้งบประมาณ 3-4 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ประชาชนตั้งใจให้พรรคมาทำกิจกรรมทางการเมือง ไม่ใช่นำเงินมาผลาญเล่นกันเช่นนี้ วันนี้ขอเป็นครั้งสุดท้าย และให้ทุกคนตรึกตรองดูว่าพฤติกรรมที่ผ่านมาถูกต้องหรือไม่
เมื่อถามว่าจะนัดประชุมใหม่อีกครั้งเมื่อใด นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ต้องนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อนัดประชุมอีกครั้ง ทั้งนี้ การประชุมล่มในแต่ละครั้งตนทราบก่อนล่วงหน้า 1 วัน
เมื่อถามว่าสิ้นเดือนส.ค.นี้ จะได้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า พูดอยู่ตลอดเวลาถ้ามีจิตสำนึกก็จะได้ เมื่อถามต่อว่าการประชุมครั้งหน้าต้องเปลี่ยนสถานที่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า น่าจะต้องกางเต้นท์ เพราะพรรคจะไม่มีเงินแล้ว
เมื่อถามว่าขณะที่แถลงข่าวอยู่นี้มีส.ส.มาร่วมแถลงด้วยกี่คน นายเฉลิมชัย กล่าวว่า “ต่ำๆมี 21 คน ฝากบอกกับสื่อด้วยว่าคนที่คิดว่าพรรคจะต้องเดินตามแนวทางนี้มีไม่ต่ำกว่า 21 คน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายของการแถลงข่าวนายเฉลิมชัยพร้อมด้วยส.ส. ได้ยืนให้สื่อมวลชนถ่ายรูป เพื่อแสดงตัวว่าไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมที่ทำให้องค์ประชุมล่ม